[REVIEW] Ajin: Demi-Human (อาจิน ฅนไม่รู้จักตาย) [2017]
Ajin: Demi-Human (อาจิน ฅนไม่รู้จักตาย) ภาพยนตร์แนว Action Thriller ที่ดัดแปลงมาจากมังงะดังชื่อเรื่องเดียวกัน ซึ่งผลงานของอาจารย์ Gamon Sakurai
เขียนบทโดย Masahiro Yamaura และ Hiroshi Seko
กำกับโดย Katsuyuki Motohiro
นำแสดงโดย
Takeru Satoh (จากภาพยนตร์เรื่อง BECK, RUROUNI KENSHIN และ If Cats Disappeared From The World) รับบทเป็น Kei Nagai
Gō Ayano (จากภาพยนตร์เรื่อง Gatchaman และ Lupin III) รับบทเป็น Sato
Tetsuji Tamayama (จากภาพยนตร์เรื่อง NANA ทั้ง 2 ภาค และ Lupin III) รับบทเป็น Yu Tosaki
Rina Kawaei (อดีตสมาชิกวง AKB48 และจากภาพยนตร์เรื่อง Death Note: Light Up the New World) รับบทเป็น Izumi Shimomura
Yû Shirota (จากซีรีส์เรื่อง GTO: Great Teacher Onizuka) รับบทเป็น Koji Tanaka
Yuki Yamada (จากภาพยนตร์เรื่อง Tomorrow I Will Date with Yesterday’s You) รับบทเป็น Takahashi
เรื่องย่อ/เนื้อเรื่อง
เรื่องราวกล่าวถึงการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตประเภทหนึ่งที่ถูกเรียกว่า Ajin เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนมนุษย์ทุกประการ แต่ทุกครั้งที่ประสบเหตุเสียชีวิต ร่างกายของ อาจิน จะถูก Reset และฟื้นคืนชีพกลับมาใหม่ รวมถึงการซ่อมแซมร่างกายส่วนที่เสียหาย (เช่น แขนขาด , ขาขาด เป็นต้น) ให้กลับมาเป็นปรกติทุกครั้งที่มีการ รีเซ็ต
เปิดเรื่องด้วยภาพการทดลองกับ อาจิน หมายเลข 003 ที่ชื่อ Nagai Kei เป็นการทดลองเพื่อหาความลับของ อาจิน โดยการทดลองตัดแขน, ขา รวมถึงการทำทารุณกรรมต่างๆ
ในระหว่างการทดลอง ทาคาอิ เคย์ ถูกทำการ รีเซ็ต นับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งสร้างความเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างมาก (แม้จะสามารถฟื้นคืนชีพ และสร้างอวัยวะขึ้นมาได้ใหม่ แต่ความรู้สึกเจ็บปวดก่อนการ รีเซ็ต ก็ยังคงมีอยู่ รวมถึงความทรงจำต่างๆ ก่อนการถูก รีเซ็ต ก็ยังคงอยู่)
ในวันหนึ่ง หน่วยวิจัยอาจินแห่งนี้ ก็ถูกโจมตี จาก อาจิน หมายเลย 001 ที่ชื่อ Sato และ หมายเลข 002 ที่ชื่อ Koji Tanaka โดยเป้าหมายของ อาจิน ทั้ง 2 ตนในครั้งนี้ คือการทำลายหน่วยวิจัย และช่วยเหลือ ทาเคอิ เคย์ เพื่อชักชวนให้มาเป็นพวกด้วย ซึ่งเป้าหมายหลักที่แท้จริงของ ซาโต้ คือการรวบรวมเหล่า อาจิน จากที่ต่างๆ เพื่อทำการก่อการร้าย และแบ่งแยกเขตการอยู่อาศัยเฉพาะของเหล่า อาจิน แต่ นาคาอิ เคย์ ไม่สนใจที่จะร่วมทีมด้วย ซึ่งนั่นจึงถือว่าเป็นศัตรูกับ ซาโต้ ไปโดยปริยาย และเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากการตามไล่ล่าของหน่วยวิจัยอาจิน นาคาอิ เคย์ จึงได้ทำข้อตกลงกับหน่วยวิจัยอาจิน ในการเข้าร่วมกับหน่วย เข้าต่อสู้กับทีมของ ซาโต้ แลกเปลี่ยนกับการเลิกตามล่าตัวเขา
ความรู้สึกหลังดูจบ
โดยรวม ถือว่าทำออกมาได้แบบที่เรียกได้ว่า “ดูแล้วสนุกและมันส์มาก” มีการดำเนินเรื่องที่เร็วและรวดรัด เพราะเพียงแค่ฉากเปิดเรื่อง ก็ทำได้น่าสนใจแล้ว และเพียงไม่กี่นาทีต่อจากนั้น หนังก็พาเราเข้าสู่ฉากแอ็คชั่นที่ออกแบบมาได้ดีทีเดียว ยิ่งความพิเศษของ อาจิน ที่สามารถ รีเซ็ต ร่างกายตัวเองได้ หลังจากการ “ตาย” ยิ่งทำให้ฉากแอ็คชั่นในเรื่องนี้ค่อนข้างมีจุดที่แปลกตากว่าเรื่องอื่นๆ อยู่พอสมควร
ในส่วนของเพลงประกอบถือว่าเลือกมาใช้ได้ดีเข้ากับเรื่องราวตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะช่วงที่เป็นซีนแอ็คชั่นเพลงประกอบสนุกมากและเข้ากันได้ดีกับฉากต่อสู้
เป็นอีก 1 ภาพยนตร์ที่มีการดัดแปลงเนื้อหาจากมังงะ ค่อนข้างมากพอสมควร ตัดทอนเนื้อหาในหลายๆ ส่วนออกไป โดยเฉพาะที่มาของตัวละครหลายๆ ตัว ทำให้คนที่ไม่เคยอ่านมังงะมาก่อน อาจจะงงๆ ได้ รวมไปถึงอีกหลายๆ ฉาก ที่รวบรัดมากจนเกินไป จนทำให้ขาดความต่อเนื่อง และซีนอารมณ์ที่ดูเหมือนจะตัดออกไปค่อนข้างมาก ทำให้เราไม่ค่อย “อิน” ไปกับการ กระทำของตัวละครแต่ละตัว ตัวหนังเหมือนจะเน้นไปที่ฉาก Action ซะเป็นส่วนใหญ่ (มีฉากต่อสู้ตลอดทั้งเรื่อง)
ด้วยความที่รวบรัด และลดความสำคัญของซีนอารมณ์ไปค่อนข้างมาก ทำให้เป็นที่น่าเสียดายที่เราจะไม่ได้เห็นแอ็คติ้งแจ่มๆ จาก ทาเครุ ซาโตะ เหมือนที่เคยแสดงให้ได้เห็นจากในเรื่อง Rurouni Kenshin
แต่จะว่าแล้ว ดูเหมือนบทของ ทาเครุ ซาโตะ ในเรื่องนี้ แม้จะเป็นบท “พระเอก” แต่ก็ดูจะเป็นรองบทของ โก อายาโนะ อยู่ค่อนข้างมาก และโดยเฉพาะการแสดงของ โก อายาโนะ เองนั้น ก็ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว จนทำให้ตัวละคร ซาโต้ ค่อนข้างมีเสน่ห์มากๆ
สรุป >> ให้ไป 7 เต็ม 10 นะฮะ โดยรวมคือถ้าชื่นชอบหนังแนวแอ็คชั่นแฟนตาซีคุณน่าจะชอบเรื่องนี้นะฮะ
ท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ