[รีวิว] Army of Thieves (แผนปล้นยุโรปเดือด) งานภาคต้นที่ทำออกมาได้สนุกกว่าภาคหลัก [Movie]

[Review] Army of Thieves (แผนปล้นยุโรปเดือด) [2021]

Army of Thieves (แผนปล้นยุโรปเดือด) ภาพยนตร์แนว Action Comedy Crime ที่เป็นภาคต้นของภาพยนตร์เรื่อง Army of the Dead (แผนปล้นซอมบี้เดือด) กำกับโดย Matthias Schweighöfer ซึ่งรับบทนำในเรื่องด้วย โดยที่ Zack Snyder หันไปนั่งแท่นเป็นผู้อำนวยการสร้างแทน และได้ Shay Hatten จากภาพยนตร์ภาคหลักกลับมาทำหน้าที่เขียนบทเช่นเคย

โดยจะเป็นการเล่าเรื่องาวของ Sebastian Schlencht-Wöhnert (รับบทโดย Matthias Schweighöfer) ในช่วงก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น Ludwig Dieter และเข้าไปร่วมทีมตะลุยลาสเวกัสในภาคหลัก

รับชมได้แล้วทางช่อง Netflix

เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวของ เซบาสเตียน ชเลนชต์-เวอเนิร์ต หนุ่มเนิร์ดนักเจาะรหัสตู้เซฟฝีมือฉกาจ เขาทำงานเป็นพนักงานธนาคารฝ่ายที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายและแสนน่าเบื่อ มีวงจรชีวิตเป็นรูทีน

วันหนึ่ง เขาได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตู้เซฟในตำนาน 4 ตู้ที่สร้างขึ้นมาโดย Hans Wagner (รับบทโดย Christian Steyer) ตู้เซฟดังกล่าวมีระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง หากเปิดไม่ถูกต้อง ของที่อยู่ภายในตู้เซฟนั้นจะถูกเผาทำลายทั้งหมดทันที และประตูตู้เซฟนั้นก็จะล็อคไปตลอดกาล

วันหนึ่งมีคนติดต่อเค้าเข้ามาชักชวนให้เขาไปลองทดสอบฝีมือ ซึ่ง เซบาสเตียน ก็ได้ไปตามที่อยู่ที่ส่งมาโดยที่เขาก็ยังไม่รู้เลยว่าการทดสอบดังกล่าวคืออะไร

และในการเข้าร่วมการทดสอบนี้เองที่ทำให้เขาได้พบกับสาวสวยนาม Gwendoline Starr (รับบทโดย Nathalie Emmanuel) หญิงสาวที่เข้ามาชักชวนเขาให้เข้าร่วมทีมกับเธอในการปล้น และสาเหตุที่เธอมาชักชวนเขาก็เพราะว่ามีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะทำงานนี้ได้สำเร็จ นั่นคือการเจาะรหัสตู้เซฟในตำนาน 3 ตู้ของ ฮานส์ วากเนอร์

เซบาสเตียน จึงตัดสินใจเข้าร่วมทีมด้วยเพราะถือว่าเป็นโอกาสเดียวที่จะได้ใช้ชีวิตให้แตกต่างจากชีวิตที่สุดแสนธรรมดาอย่างที่ผ่านมา และเป็นโอกาสเดียวที่เขาจะได้สัมผัสกับตู้เซฟในตำนาน

และในทีมปล้นครั้งนี้ นอกจากตัวเขาและ เกว็น แล้ว ยังมีอีก 3 คนซึ่งประกอบไปด้วย Brad Cage (รับบทโดย Stuart Martin) หนุ่มสายบู๊ที่รับหน้าที่เกี่ยวกับงานที่ต้องใช้ความสามารถในการต่อสู้, Rolph (รับบทโดย Guz Khan) หนุ่มสายซิ่งที่ทำหน้าที่เป็นพลขับในการพาทีมหนี และ Korina Dominguez (รับบทโดย Ruby O. Fee) สายสวยนักแฮ็คที่มีฝีมือในการเจาะระบบคอมพิวเตอร์ขั้นเทพ

และแล้วปฏิบัตการปล้นของพวหเขาทั้ง 5 คนก็ได้เริ่มต้นขึ้น

ความรู้สึกหลังจากดูจบ
เอาตรงๆ คือ ดูสนุกกว่าภาคหลักพอสมควรเลยฮะ หนังมาในแนวโจรกรรมวางแผนปล้นที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว หนังดูเพลินมากฮะ การดำเนินเรื่องก็ค่อนข้างที่จะลื่นไหลพอสมควร

นักแสดงทุกคนทำหน้าที่ในบทบาทของตัวเองได้เป็นอย่างดีและทำให้ตัวละครนั้นๆ ดูมีเสน่ห์มากๆ แม้จะมีความน่าเสียดายอยู่ตรงที่ตัวละครแต่ละตัวไม่มีฉากที่ให้ได้โชว์ฝีมือกันเลย โดยเฉพาะตัวละครที่น่าเสียดายที่สุดก็เห็นจะเป็น ราล์ฟ หนุ่มนักซิ่งที่แทบจะไม่มีบทบาทอะไรในการปล้นเลย ทั้งๆ ที่ตอนแนะนำตัวนี่ เปิดมาได้อย่างเทพเลย จนทำให้เราอยากจะเห็นทีมนี้ไปบุกลาสเวกัส ไปตะลุยซอมบี้มากกว่าทีมในภาคแรกเสียอีกนะฮะ

และจุดหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นจุดอ่อนที่สุดของหนังก็คือ ทิศทางของหนังที่ค่อนข้างจะเดาทางได้ง่ายไปหน่อย เรียกได้ว่าเดินตามสูตรหนังแนวปล้นแบบเป๊ะๆ เลย ตัวหนังก็เลยไม่ได้มีพลอตเรื่องหรือการดำเนินเรื่องอะไรที่แปลกใหม่

สรุป >> ให้ไป 7.5 เต็ม 10 ละกันฮะ หนังดูสนุกและบันเทิงดีฮะ ดูได้เพลินๆ แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก แถมยังสนุกกว่าภาคหลักอีกนะ

สุดท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ