Home Movies บอดี้ ศพ#19 หนังไทยที่กล้าเล่นท่ายากกับประเด็นของจิตวิทยาฆาตกรรม

[รีวิว] บอดี้ ศพ#19 หนังไทยที่กล้าเล่นท่ายากกับประเด็นของจิตวิทยาฆาตกรรม [Movie]

[Review] บอดี้ ศพ#19 [2007]

บอดี้ ศพ#19 ภาพยนตร์ไทยแนว Mystery Psychological Horror-Thriller จากค่าย GTH ของผู้กำกับ ปวีณ ภูริจิตปัญญา ซึ่งเขียนบทโดย ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล, เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ และ ปวีณ ภูริจิตปัญญา

นำแสดงโดย
เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ (อดีตมือกีตาร์วง Slur) รับบทเป็น ชลสิทธิ์
แป้ง อรจิรา แหลมวิไล (จากภาพยนตร์เรื่อง สายล่อฟ้า) รับบทเป็น เอ๋ (พี่สาวของ ชลสิทธิ์)
เข็ม กฤตธีรา อินพรวิจิตร (อดีตพิธีกรรายการ ตีสิบ และจากภาพยนตร์เรื่อง กุมภาพันธ์) รับบทเป็น หมออุษา (ภรรยาของ หมอสุธี)
ปลาย ปรเมศร์ น้อยอ่ำ รับบทเป็น หมอสุธี (สามีของ หมออุษา)
เมย์ ภัทรวรินทร์ ทิมกุล (จากภาพยนตร์เรื่อง บางกอกแดนเจอรัส เพชฌฆาตเงียบ อันตราย และ จันดารา เวอร์ชั่นปีพ.ศ.2544) รับบทเป็น ดาราราย

รับชมได้ทาง NETFLIX

บอดี้ ศพ#19

เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวของ ชลสิทธิ์ นักศึกษาหนุ่มคณะวิศกรรมศาสตร์ที่อาศัยอยู่กับพี่สาวชื่อ เอ๋ ซึ่งเป็นนักศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ วันหนึ่ง ชลสิทธิ์ ตื่นขึ้นมาในโรงละครที่กำลังทำการแสดงดนตรีอยู่อย่างงงๆ แต่ยังไม่ทันได้คำตอบอะไร เขาก็รีบเดินออกมาจากข้างนอก และเดินทางกลับบ้านทันที ตั้งแต่นั้นมา ชลสิทธิ์ มักจะฝันร้ายถึงเหตุการณ์ฆาตกรรมฆ่าหั่นศพหญิงสาวรายหนึ่งอยู่ตลอดเวลา และในฝันนั้นเขายังเห็นผีตนหนึ่งที่มักจะเอ่ยถึงชื่อ ดาราราย ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ เขา

อาการฝันร้ายของ ชลสิทธิ์ เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จนถึงถึงขั้นที่เขาไม่สามารถนอนหลับได้อย่างสนิท จนสภาพร่างกายและจิตใจค่อยๆ แย่ลง แถมบางครั้งมันทำให้เขาเห็นภาพหลอนของผีตนนั้นที่คอยตามมาหลอกหลอนเขา จนกระทั่งเขาพลั้งมือบีบคอ เอ๋ จนเกือบตายเพราะคิดว่าเป็นผี

เอ๋ จึงขอให้เขาไปหาหมอเพื่อทำการรักษา เขาจึงได้ติดต่อขอเข้ารับการรักษากับ หมออุษา ตามคำแนะนำของ หมอจิ๊บ ที่ได้แนะนำให้กับเขาในวันที่เขาได้เข้าไปทำแผลที่โรงพยาบาล

แต่หลังจากเข้าพบ หมออุษา เขาก็คิดว่าการรักษาไม่น่าจะได้ผล เขาจึงพยายามสืบหาต้นตอของฝันร้ายนั้นเองว่าผีตนนั้นต้องการอะไรจากเขา แล้วชื่อ ดาราราย ที่เขาได้ยินจากผีตนนั้นคือใคร และเกี่ยวข้องอะไรกับเหตุฆาตกรรมที่เขาฝันถึง

ยิ่งสืบหาความจริง ความเจ็บปวดที่แสนสาหัสก็ยิ่งปรากฎ ความจริงนั้นคืออะไร ไปร่วมหาคำตอบกันนะฮะ

ความรู้สึกหลังจากดูจบ
บทหนังดีมาก แถมพอทุกอย่างเฉลยแล้วก็สามารถคลายปมทุกอย่างได้อย่างกระจ่างแทบจะไม่มีแผลเลย หนังไทยน้อยเรื่องมากฮะที่จะทำได้แบบนี้ (เพราะที่เห็นๆ มาจากหลายๆ เรื่อง แม้บทจะดี ดำเนินเรื่องดี หรือเล่าเรื่องดี แต่พอวิเคราะห์องค์รวมแล้วก็ยังจะเห็นบาดแผลของหนังซ่อนอยู่จุดนู้นจุดนี้เต็มไปหมด)

หนังสามารถนำประเด็นของคนเป็น โรค MPD (Multiple Personality Disorder) หรือที่รู้จักกันในชื่อ โรคหลายบุคลิก มาเล่นได้อย่างชาญฉลาดมากฮะ เห็นได้ชัดว่ามีการทำการบ้านมาอย่างดี ไม่มีจุดที่ให้จับผิดได้เลย

สิ่งที่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ก็คือ การเดินเรื่องในช่วงต้นจนถึงกลางเรื่องที่ค่อนข้างจะอืดและเนือยไปหน่อย ทำให้บางช่วงแอบมีเบื่อๆ ไปบ้าง แต่ก็เหมือนจะรู้ เพราะทันทีที่เราเริ่มเบื่อหนังก็จะใส่อะไรที่น่าสนใจเพื่อดึงให้เรากลับมาอยู่กับหนังต่อได้

สรุป >> ให้ไปเลย 7.5 เต็ม 10 ฮะ เป็นหนังไทยอีก 1 เรื่องที่กล้าเรียกได้ว่าเป็น ของดี เลยฮะ ใครที่ยังไม่เคยดูแนะนำให้หามาดูได้เลยฮะ ไม่ผิดหวังแน่นอน

สุดท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ

Exit mobile version