[Review] Brightburn (เด็กพลังอสูร) [2019]
Brightburn (เด็กพลังอสูร) ภาพยนตร์แนว Superhero Horror ที่กำกับโดย David Yarovesky อำนวยการสร้างโดย James Gunn และ Kenneth Huang นำแสดงโดย Elizabeth Banks, David Denman และ Jackson A. Dunn
สามารถรับชมได้ทางช่อง NETFLIX
“อะไรจะเกิดขึ้น ถ้ายานอวกาศที่มีเด็กทารกจากอีกดาวดวงหนึ่งตกลงมาสู่โลก และเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กที่มีพลังพิเศษที่พร้อมจะทำลายล้างทุกคนบนโลกนี้”
นี่คือไอเดียคร่าวๆ ที่อยู่ในโปรเจคของ เจมส์ กันน์ ที่ใช้ชื่อว่า Untitled James Gunn Horror Project ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 โดยเป็นไอเดียที่เล่นกับแนวคิดสลับขั้วที่ว่า หาก Superman เติบโตขึ้นมาเป็นวายร้าย ไม่ได้เป็น Superhero อย่างที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ โลกจะเป็นอย่างไร
โดยโปรเจคนี้มี Mark Gunn ลูกพี่ลูกน้องและ Brian Gunn น้องชายของ เจมส์ กันน์ มาร่วมกันเขียนบทภาพยนตร์และเริ่มต้นถ่ายทำในเดือนมีนาคม 2561
เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
ในปี 2006 Kyle Breyer (รับบทโดย David Denman) และ Tori Breyer (รับบทโดย Elizabeth Banks) 2 สามี-ภรรยาชาวไร่ที่อาศัยอยู่ในเมือง Brightburn, Kansas ทั้งสองมีความใฝ่ฝันที่อยากจะมีลูกมาตลอด แต่หลังจากที่พยายามลองหลายวิธีแล้วก็ยังไม่เป็นสำเร็จ จนกระทั่งวันหนึ่ง ได้มีวัตถุลึกลับชนิดหนึ่งตกลงมาในบริเวณใกล้ๆ กับฟาร์มของพวกเขา เมื่อพวกเขาเข้าไปตรวจดูจึงได้พบว่าเป็นยานอวกาศจากนอกโลก และภายในยานอวกาศลำนั้นก็มีเด็กทารกตัวน้อยอยู่ ทั้งสองจึงตัดสินใจที่จะเลี้ยงดูเด็กทารกคนนี้ในฐานะลูกและปิดบังที่มาของเด็กคนนี้เอาไว้ไม่ให้ใครรู้ พวกเขาตั้งชื่อให้เด็กคนนี้ว่า Brandon Breyer
12 ปีต่อมา แบรนดอน (รับบทโดย Jackson A. Dunn) เติบโตเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นที่ดูเหมือนจะเป็นเด็กเนิร์ดอยู่พอสมควรและแอบมีความเป็นโรคจิตอยู่หน่อยๆ ด้วย วันหนึ่งในขณะที่เขากำลังนอนหลับอยู่ จู่ๆ ยานอวกาศของเขาที่สงบนิ่งตั้งแต่วันที่ลงมาถึงโลกและถูกเก็บซ่อนอยู่ห้องใต้ดินของโรงนามาโดยตลอด ได้ถูกบางสิ่งกระตุ้นให้ทำงานและมันได้ส่งสัญญาณสื่อสารบางอย่างไปยัง แบรนดอน และตั้งแต่นั้นเองที่พลังพิเศษของ แบรนดอน ก็ค่อยๆ ตื่นขึ้นมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจที่ดูจะรุนแรงขึ้นทุกวัน จนในที่สุดก็ไปถึงจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่ความหายนะแก่มนุษยชาติ
ความคิดเห็นหลังดูจบ
หนังสนุกมากกกก ตัวเจ้าหนู แบรนดอน เนี้ย เรียกได้ว่าเป็นส่วนผสมของมนุษย์ที่มีพลังพิเศษแบบ Superman แต่เลววายป่วงแบบเด็กนรก Damien ในหนังเรื่อง the Omen เลย ดังนั้นเราจึงจะได้เห็นฉากโหดๆ เลือดสาดอยู่เยอะพอสมควร กับแนวทางการดำเนินเรื่องในแบบหนังสยองขวัญ
ข้อเสียอย่างหนึ่งของหนังเรื่องนี้คือ หนังไม่ได้ลงลึกในมิติอารมณ์ของตัวละครแต่ละตัวเท่าไหร่ เพียงแค่ปูพื้นตัวละครแบบผ่านๆ แล้วไปเน้นด้านความสยองขวัญซะมากกว่า จึงทำให้ในหลายๆ จุดดูไม่ค่อยจะมีที่มาที่ไปหรือมีเหตุผลในการรองรับอะไรเลย
ในส่วนของงาน CG ถือว่าทำได้ในระดับกลางๆ ไม่ค่อยมีอะไรหวือหวามากนัก สมกับงบประมาณของหนังที่ได้มา
และสุดท้ายหนังก็ทิ้งเชื้อไว้สำหรับภาคต่อไปได้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว ก็หวังว่าจะมีโอกาสได้ทำภาคต่อนะฮะ
สรุป >> หนังสนุกและตื่นเต้นเร้าใจดี เหมาะกับคนดูที่ไม่อยากจะคิดอะไรมาก คือต้องการเพียงแค่ความบันเทิงและอยากจะเห็นอีกด้านที่ร้ายๆ ของ Superman ก็เท่านั้น
ท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ