[Review] Kingdom: Ashin of the North (ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด: อาชินแห่งเผ่าเหนือ) [2021]
Kingdom: Ashin of the North (ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด: อาชินแห่งเผ่าเหนือ) ภาพยนตร์เกาหลีใต้แนว Political Period Horror ซึ่งเป็นภาคต้นของซีรีส์ดังเรื่อง Kingdom (ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด) ที่ปัจจุบันนี้มีออกมาแล้ว 2 Season เมื่อปี 2019 และ 2020 โดยจะเล่าเรื่องราวในช่วงก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ในซีซั่น 1 กับปริศนาของพืชคืนชีพและที่มาของฝูงผีดิบคลั่ง
เขียนบทโดย Kin Eun-hee
กำกับโดย Kim Seong-hun
นำแสดงโดย
Kim Shi-ah (จากภาพยนตร์เรื่อง Ashfall และซีรีส์เรื่อง The Silent Sea) รับบทเป็น Ashin (วัยเด็ก)
Jun Ji-hyun (จากภาพยนตร์เรื่อง My Sassy Girl) รับบทเป็น Ashin (วัยสาว)
Park Byung-eun (จากซีรีส์เรื่อง Kingdom) รับบทเป็น Min Chi Rok
Koo Kyo-hwan (จากภาพยนตร์เรื่อง Peninsula) รับบทเป็น Ai Da Gan
Kim Roi-ha (จากซีรีส์เรื่อง Voice) รับบทเป็น Ta Hab
รับชมได้ทางช่อง Netflix
เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
ณ ชายแดนตอนเหนือของโชซอนที่กำลังมีปัญหากับกลุ่มชนเผ่าเร่ร่อน หนี่ว์เจิน ชนเผ่าที่ตั้งรกรากอยู่ในบริเวณพื้นที่ พาจอวี (ซึ่งอยู่ติดกับประเทศจีนและเกาหลี โดยชนเผ่านี้ก็คือบรรพบุรุษของอาณาจักรผ่าต้าจิน/ต้ากิม หรือ กิมก๊ก ที่คนไทยคุ้นเคยจากเรื่อง มังกรหยก) นอกจากนี้ยังมีชนเผ่าหนี่ว์เจินบางส่วนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ของโชซอน ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็กลายเป็นเหมือนชนกลุ่มน้อยที่ไม่เป็นที่ยอมรับและถูกดูแคลนจากชาวโชซอนมาอย่างยาวนาน
มินจีรก รองแม่ทัพแห่งกองทัพโชซอน จึงได้ทำข้อตกลงกับ ทาฮับ ชาวหนี่ว์เจินคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และมีความจงรักภักดีกับแผ่นดินโชซอนเป็นอย่างมาก ให้คอยเป็นไส้ศึกเพื่อรายงานความเคลื่อนไหวของพาจอวี โดยมีข้อเสนอว่าจะช่วยเหลือให้ ทาฮับ ได้เข้าเป็นข้าราชการของโชซอน
วันหนึ่งในเขตป่าพเยซากุนของโชซอนซึ่งถูกกันบริเวณไว้เป็นป่าศักดิ์สิทธิ์ห้ามผู้ใดย่างกรายมานานกว่า 100 ปีแล้ว ได้มีคนไปพบกองศพของทหารพาจอวีจำนวนมากโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าใครหรืออะไรเป็นผู้สังหารทหารเหล่านี้แล้วนำศพมากองไว้รวมกัน
เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการเกิดสงครามกับทหารพาจอวี มินจีรก จึงได้ให้ ทาฮับ ออกไปปล่อยข่าวลือเรื่องการตายของทหารพาจอวีว่าเป็นการกระทำของเสือร้ายที่อาศัยอยู่ในป่าลึกแห่งนั้น
แต่สุดท้ายแล้ว ทหารพาจอวีก็ได้รับรู้ว่า การตายของทหารเหล่านั้นไม่ได้เกิดจากเสือร้าย หากแต่เป็นฝีมือของชาว หนี่ว์เจิน ที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่ของโชซอน ไอดากัน หัวหน้ากลุ่มพาจอวีจึงได้นำกองกำลังเดินทางไปจัดการสังหารล้างหมู่บ้านนั้นจนสิ้น
ซึ่งเป็นโชคดีของ อาชิน ลูกสาวของ ทาฮับ ที่ในระหว่างนั้นเธอได้เข้าไปในเขตป่าพเยซากุนเพื่อศึกษาพืชชนิดหนึ่งโดยหวังจะนำพืชดังกล่าวมารักษาอาการป่วยของแม่ของเธอ ทำให้เธอรอดชีวิตจากการสังหารล้างหมู่บ้านครั้งนี้
เธอได้ไปขอให้รองแม่ทัพ มินจีรก ช่วยล้างแค้นให้กับพ่อของเธอ โดยบอกว่าพ่อของเธอนั้นมีความจงรักภักดีกับโชซอนมากและคาดหวังว่าจะได้มีโอกาสเข้ารับใช้เป็นข้าราชการในโชซอน ทำให้ มินจีรก รับปากกับเธอว่าจะช่วยแก้แค้นให้ และรับเลี้ยงเธอเอาไว้อยู่ในกองทัพ
ในระหว่างที่เธอใช้ชีวิตอยู่ในกองทัพ เธอต้องช่วยงานทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงหมู ซักเสื้อผ้าให้คนทั้งกองทัพท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ รวมถึงการทำหน้าที่เป็นหน่วยสอดแนมที่จะคอยแอบเข้าไปจับตาดูการเคลื่อนไหวของทหารพาจอวี
ในขณะเดียวกันเธอก็พยายามฝึกฝนตัวเองให้แข็งแกร่ง เพื่อที่จะหาทางชำระแค้นที่ฝังแน่นอยู่ในอกของเธอ จนกระทั่งวันหนึ่งที่ความจริงทุกอย่างกระจ่างชัด ก็ได้เวลาที่เธอจะทำการล้างแค้นกับทุกคนที่เคยกระทำการอันโหดร้ายกับตัวเธอและชนเผ่าของเธอ
ความรู้สึกหลังดูจบ
ยอมรับว่าผิดจากที่คาดหวังไปพอสมควร คือด้วยความที่ใน 2 ซีซั่นแรกนั้น ในส่วนของพาร์ทการเมือง การโค่นราชบัลลังก์ กับพาร์ทของการต่อสู้เอาตัวรอดจากฝูงผีดิบคลั่งนั้นค่อนข้างที่จะบาลานซ์กันพอสมควร ไม่มีด้านใดเด่นกว่ากัน
แต่กับตอนพิเศษเรื่องนี้นั้น จะไปโฟกัสที่เรื่องราวชีวิตของตัวละคร อาชิน เป็นหลัก เนื่องจากเธอเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เกิดเรื่องราวในฉบับซีรีส์ขึ้น ดังนั้นในพาร์ทของการโจมตีของฝูงผีดิบคลั่งจึงจะมีแค่ในช่วงท้ายของเรื่องที่เป็นช่วงไคลแมกซ์เท่านั้น
ซึ่งถ้าใครหวังที่จะได้เห็นฝูงผีดิบคลั่งก็เตรียมผิดหวังตามกันไปได้เลยฮะ
และตัวละคร อาชิน นี้ก็เพิ่งได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกในซีนสุดท้ายของซีซั่น 2 นั่นหมายความว่าในซีซั่น 3 นี้ เธอจะเป็นตัวละครที่มีบทบาทสำคัญกับเรื่องเป็นอย่างมาก แค่นี้ก็กระตุ้นต่อมความอยากดูซีซั่น 3 ขึ้นมาได้อีกเยอะเลย
ดังนั้น ถ้าจะถามว่าหนังห่วยมั้ย ก็ตอบได้เต็มปากเลยว่า ไม่ห่วย ฮะ คือหนังดีมากเลยล่ะ เนื้อหาดาร์กก็สุดๆ เพราะมันบอกเล่าเรื่องราวโศกนาฏกรรมของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกกระทำอย่างโหดร้าย จนเธอต้องเก็บความเจ็บแค้นและแรงอาฆาตไว้เพื่อรอเวลาที่เหมาะสมและระเบิดมันออกมา
ในซีนดราม่านี่บอกได้เลยว่ากระชากอารมณ์มาก โดยเฉพาะกับการแสดงของน้องหนู คิมชิอา นั้นตีบทแตกกระจุยเลยฮะ หนังแฝงนัยยะเชิงสัญลักษณ์ต่างๆ ไว้มากมายในหลายๆ ซีน เช่นในฉากการฝึกซ้อมยิงธนูของตัวละคร อาชิน เป็นต้น
แต่จุดที่หลายๆ คนน่าจะผิดหวังเหมือนกันก็คือ การดำเนินเรื่องค่อนข้างจะเรียบๆ และเนือยๆ ไปหน่อย ทำให้มีช่วงที่แอบง่วงๆ ไปบ้าง แต่พอถึงในจังหวะสำคัญของเรื่องก็ยังสามารถดึงเรากลับมาให้อยู่กับหนังได้อยู่
ส่วนใครที่ยังไม่เคยดูฉบับซีรีส์มาก่อนก็ไม่ต้องกลัวว่าจะงงนะฮะ สามารถดูได้เลยเพราะหนังจะเล่าถึงจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ที่เกิดในซีซั่น 1 ดังนั้น ถ้าอยากจะดูแบบเรียงตามไทม์ไลน์ ก็ต้องดูภาคนี้ก่อนเลยฮะ แล้วค่อยไปต่อในซีซั่น 1 และ 2 ตามลำดับ
สรุป >> ให้ไป 8 เต็ม 10 เลยฮะ เนื้อเรื่องสุดดาร์ก ดราม่าหนัก เป็นการเปิดปูมหลังของตัวละครที่จะมีความสำคัญกับซีซั่น 3 ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้เราอยากจะดูต่อได้อย่างดีเลย ไม่ชอบแค่การดำเนินเรื่องที่เรียบๆ เนือยๆ ไปหน่อย