[Review] Parasite (ชนชั้นปรสิต) [2019]
Parasite (ชนชั้นปรสิต) ภาพยนตร์เกาหลีใต้แนว Thriller Drama Comedy ของผู้กำกับ Bong Joon-ho ที่เคยฝากผลงานชั้นดีไว้อย่างมากมายเช่น Memories Of Murder (2003), The Host (2006), Snowpiercer (2013) และ Okja (2017) เป็นต้น
และนี่คือภาพยนตร์เกาหลีเรื่องแรกที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ปาล์มทองคำ (Palme d’Or) ใน เทศกาลหนังเมืองคานส์ ปี 2019 (Festival De Cannes 2019)
แนะนำนักแสดง
– Song Kang-ho รับบทเป็น Kim Ki-taek
– Jang Hye-jin รับบทเป็น Kim Choong-sook
– Choi Woo-shik รับบทเป็น Kim Ki-woo
– Park So-dam รับบทเป็น Kim Ki-jung
– Lee Sun-kyun รับบทเป็น Mr. Park
– Cho Yeo-jeong รับบทเป็น Park Yeon-kyo
– Jung Ji-so รับบทเป็น Park Da-hye
– Jung Hyun-joon รับบทเป็น Park Da-song
– Park Seo-joon รับบทเป็น Min-hyuk
– Lee Jung-eun รับบทเป็น Gook Moon-gwang
– Park Myung-hoon รับบทเป็น Geun-sae
– Park Geun-Rok รับบทเป็น Chauffeur Yoon
– Jung Yi-seo รับบทเป็น Pizzeria manager
รับชมได้ทาง NETFLIX และ Disney+ Hotstar
เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวความแตกต่างของ 2 ครอบครัวที่แตกต่างกันทางชนชั้นและฐานะอย่างสิ้นเชิง โดยจุดเริ่มต้นของเรื่องมาจากครอบครัวชนชั้นล่าง 4 คน ที่อาศัยอยู่ในชั้นใต้ดินของอพาร์ทเมนท์โทรมๆ แห่งหนึ่ง ประกอบไปด้วยคุณพ่อ Kim Ki-taek, คุณแม่ Kim Choong-Sook, ลูกชาย Kim Ki-woo และลูกสาว Kim Ki-jeong
ซึ่งลูกๆ วัยมัธยมปลายทั้ง 2 คนไม่ได้เรียนหนังสือต่อ เนื่องจากครอบครัวไม่มีเงินส่งเสียค่าเล่าเรียน ส่วนทั้งคุณพ่อและคุณแม่ก็ไม่ได้ทำงานการอะไรที่แน่นอน คอยรับงานจ้างเล็กๆ ทั่วไป
จนกระทั่งวันหนึ่ง Min-Hyuk เพื่อนของ คีวู มีแผนจะไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ จึงได้มาเสนองานให้กับ คีวู เป็นติวเตอร์ภาษาอังกฤษแทนตัวเขา โดยทำหน้าที่สอนภาษาอังกฤษแบบส่วนตัวให้กับ Park Da-hye ลูกสาวของครอบครัว Park ซึ่งเป็นครอบครัวเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง
ซึ่งแม้ว่า คีวู จะไม่มีวุฒิการศึกษา แต่ มินฮยุค ได้เสนอให้ทำเอกสารปลอมขึ้นมา เพราะรู้ว่า คีจิออง มีฝีมือในการใช้โปรแกรมตกแต่งภาพอยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะปลอมเอกสารวุฒิการศึกษาขึ้นมา หลังจากที่ผ่านการสัมภาษณ์ของ Park Yeon-kyo ผู้เป็นแม่ของ ดาฮยี
ในที่สุด คีวู ก็ได้งานติวเตอร์นี้ไปจนได้
และแล้วแผนการต้มตุ๋นครั้งใหญ่จึงได้เริ่มต้นขึ้น จากการเข้าไปเป็นติวเตอร์ของ คีวู จนกระทั่งเขาสามารถหลอกครอบครัว พัค ให้รับสมาชิกคนที่เหลือของบ้าน คิม เข้าไปทำงานได้ทุกคน
เนื้อหาคร่าวๆ ก็จะประมาณนี้ ซึ่งจะไม่ขอเล่าอะไรมากนะฮะ เพราะนี่คือหนังอีก 1 เรื่อง ที่คุณไม่ควรจะรู้รายละเอียดอะไรของหนังเลยก่อนดู และจริงๆ ก็ไม่ควรอ่านพวกบทความวิเคราะห์หรือตีความอะไรต่างๆ ของหนังก่อนจะได้เข้าไปดูเองก่อนเลยฮะ
ความรู้สึกหลังดูจบ
เรียกได้ว่าหนังเรื่องนี้ตอบโจทย์ได้กับคนดูทั้ง 2 กลุ่ม ไม่ว่าคุณจะเป็นประเภทที่ไม่ชอบหนังรางวัลหรืออะไรที่ต้องตีความมากมาย คุณก็สามารถดูได้รู้เรื่องและได้รับความบันเทิงในแบบที่หนังต้องการจะสื่อสารออกมา หรือหากคุณเป็นคนที่ชอบการตีความ, ค้นหาสัญลักษณ์อะไรต่างๆ ที่ผู้กำกับแอบสอดแทรกอยู่ในเรื่อง คุณก็สามารถที่จะสนุกไปกับมันได้ในอีกระดับหนึ่งเลยทีเดียว
Parasite เป็นหนังที่สามารถผสมผสานระหว่างความเป็นหนังคุณภาพให้เข้ากับความเป็นหนังตลาดได้อย่างลงตัวมากๆ มีการนำเสนอในแบบที่เรียกว่าเป็นหนังตลาดได้อย่างชัดเจน ดูง่าย ย่อยง่ายและบันเทิงด้วย แต่ในความง่ายนั้น ก็มีอะไรแฝงอยู่ในเนื้อหาตลอดทางที่หนังดำเนินไปทั้งเรื่อง
หนังสะท้อนภาพความแตกต่างทางชนชั้นและฐานะของคนเกาหลีใต้ออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ผ่านตัวละครทั้ง 2 ครอบครัว และสิ่งหนึ่งที่หนังเรื่องนี้ทำออกมาได้ดี คือการนำเสนอภาพของทั้ง 2 ครอบครัวที่ไม่ว่าจะมีฐานะที่แตกต่างกันอย่างไร แต่ความรักความอบอุ่นที่มีไม่ได้แตกต่างกันเลย เราจึงจะได้เห็นมุมมองของการพยายามประคับประคองและแก้ไขปัญหาในครอบครัวด้วยวิธีการและสถานภาพที่แตกต่างกันตามสิ่งที่พวกเขาเป็นอยู่ และแม้ว่าต้นทางของการแก้ปัญหาจะต่างกัน แต่สุดท้ายเจตนารมณ์ที่เป็นปลายทาง ก็เพื่อความสุขของทุกคนในครอบครัว
อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบมากเลยก็คือ ไม่มีการสะท้อนภาพของคนในครอบครัวในแบบที่เราเห็นมักจะเห็นคนทำหนังไทยชอบทำ (และบอกว่าเป็นการสะท้อนสังคม) ไม่ว่าจะเป็นภาพของเด็กติดยา (ที่มักอ้างว่าเกิดมาจากการขาดความอบอุ่นในครอบครัว) หรือการขายตัว เป็นต้น
สรุป >> ให้ไปเลย 10 เต็ม 10 ฮะ สมราคางานรางวัลการันตีมากมาย นี่คือหนังดีอีก 1 เรื่องที่แนะนำให้คุณได้ดูกันเลยฮะ แม้ว่าบางจังหวะ หนังเหมือนจะเดินเรื่องแบบเรียบๆ แต่ในความเรียบของหนัง มันก็มีอะไรให้เราค้นหาและน่าติดตาม จนเราไม่รู้สึกเบื่อเลย
และนี่คือภาพยนตร์เกาหลีเรื่องแรกในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ของเกาหลีที่สามารถคว้ารางวัลในเวทีระดับโลกได้ถึง 2 เวที คือ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ และ ออสการ์
1 รางวัลจากงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ครั้งที่ 72 ประเทศฝรั่งเศส ได้แก่
– ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Palme d’Or / ปาล์มทองคำ)
4 รางวัลจากการประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 92 เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2563 (ตามเวลาประเทศไทย) ได้แก่
– ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture)
– ผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director): Bong Joon-ho (บงจุนโฮ)
– บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Screenplay)
– ภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม (Best International Feature Film)
สุดท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ