Home Movies Parasyte the Movies จากมังงะสะท้อนสังคมสู่ภาพยนตร์ไซไฟ-ดราม่าสุดเข้มข้น

[รีวิว] Parasyte the Movies จากมังงะสะท้อนสังคมสู่ภาพยนตร์ไซไฟ-ดราม่าสุดเข้มข้น [Movies]

[REVIEW] Parasyte the Movies (ปรสิต เพื่อนรักเขมือบโลก) [2014-2015]


Parasyte the Movies (ปรสิต เพื่อนรักเขมือบโลก) ภาพยนตร์ Live Action ที่ดัดแปลงมาจากมังงะแนว Sci-fi Action Horror เรื่อง Parasyte (ปรสิต เดรัจฉาน) ของอาจารย์ Hitoshi Iwaaki

เขียนบทโดย Ryota Kosawa และ Takashi Yamazaki
กำกับโดย Takashi Yamazaki

นำแสดงโดย
Shota Sometani (จากภาพยนตร์เรื่อง Sadako 3D และซีรีส์เรื่อง xxxHolic) รับบทเป็น Shinichi Izumi
Ai Hashimoto (จากภาพยนตร์เรื่อง Sadako 3D) รับบทเป็น Satomi Murano
Eri Fukatsu (จากภาพยนตร์เรื่อง Villain และ A Ghost of a Chance) รับบทเป็น Ryoko Tamiya
Masahiro Higashide (จากภาพยนตร์เรื่อง Blue Spring Ride และซีรีส์เรื่อง xxxHolic) รับบทเป็น Hideo Shimada
Mansaku Ikeuchi (จากภาพยนตร์เรื่อง Detective in the Bar) รับบทเป็น Mr. A
Hirofumi Arai (จากภาพยนตร์เรื่อง Love’s Whirlpool) รับบทเป็น Uragami
Jun Kunimura (จากภาพยนตร์เรื่อง Kill Bill: Vol. 2) รับบทเป็น Hirama
Tadanobu Asano (จากภาพยนตร์เรื่อง Battleship และ 47 Ronin) รับบทเป็น Goto

ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ ถูกแบ่งออกเป็น 2 ภาค เข้าฉายห่างกัน 1 ปี โดย MONO Film เป็นผู้นำเข้ามาฉาย

เรื่องย่อ/เนื้อเรื่อง
ว่าได้เรื่องราวของกลุ่มปรสิตจากต่างดาวที่ตกลงมายังโลกจำนวนมาก เป้าหมายคือการยึดครองร่างกายของมนุษย์เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ของตัวเอง โดยการยึดส่วน “หัว” ของมนุษย์เพื่อการครอบครองร่างกายของมนุษย์คนนั้นโดยสมบูรณ์ และแหล่งอาหารสำคัญของเหล่าปรสิตนั้นก็คือ มนุษย์ที่ยังไม่ได้ถูกยึดครองร่างกายโดยปรสิต

แต่ทว่า มีปรสิตตัวหนึ่งที่ไม่สามารถยึดครองร่างกายของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อ อิซึมิ ชินอิจิ เจ้าปรสิตตัวนั้นจึงจำเป็นต้องฝังร่างกายไว้ที่ “มือขวา” ของ ชินอิจิ ก่อนที่ตัวเองจะตาย

และด้วยความที่ปรสิตตัวนั้น ไม่สามารถยึดครองร่างกายของ ชินอิจิ ได้อย่างสมบูรณ์นั่นเอง จึงทำให้ทั้ง ชินอิจิ และปรสิตตัวนั้น จำเป็นที่จะต้องอาศัยอยู่ร่วมกันภายในร่างกายเดียวกัน เรียนรู้ซึ่งกันและกัน และต้องคอยต่อสู้กับปรสิตตัวอื่นๆ ที่เข้ามายึดครองร่างกายมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ซึ่ง ชินอิจิ ได้ตั้งชื่อให้กับปรสิตที่อยู่ในมือขวาของเขาว่า มิกิ (みぎ)

ความรู้สึกหลังจากดูจบทั้ง 2 ภาค
นี่คือ 1 ในภาพยนตร์ Live Action ที่ดัดแปลงมาจากมังงะได้ดีมากๆ สามารถรักษา “ธีม” และ “โทน” ของมังงะไว้ได้อย่างดี และถ่ายทอดอารมณ์ความตึงเครียด ดราม่า หรือปรัชญาแฝงได้ครบถ้วน รวมถึงความโหดแบบในมังงะก็ทำออกมาได้ดีเลย

แม้จะมีการปรับเปลี่ยนในรายละเอียดบางส่วนและตัวละครบางตัวที่ถูกตัดออกไป ก็ทำได้ค่อนข้างดี ทำให้คนที่ไม่เคยอ่านมังงะมาก่อน ก็สามารถเข้าถึงตัวหนังได้ และยังช่วยให้หนังมีการดำเนินเรื่องที่กระชับมากขึ้น (แม้จะขัดใจแฟนมังงะอยู่บ้างก็ตาม) ซึ่งในจุดนี้ แมวโอเคมากๆ เลย (แฟนแมวไม่เคยอ่านมังงะมาก่อน ยังดูรู้เรื่อง และชอบมากด้วย) แถมบางจุดที่มีการปรับเปลี่ยน ยิ่งช่วยเสริมให้ความดราม่าในหนังยิ่งสะเทือนอารมณ์มากขึ้นด้วย

ฉากแอ็คชั่นทำออกมาได้สนุกและตื่นเต้นมาก และส่วนที่ชอบที่สุดเลยคือ CG สามารถถอดแบบออกมาจากมังงะได้ดีและเนียนมากๆ

ส่วนจุดที่ไม่ชอบ คือ 
1. การที่ตัวหนังเลือกที่จะแบ่งออกเป็น 2 Part นั่นจึงทำให้ บางช่วงบางตอนของหนังจะดูเนือยๆ ไปบ้าง โดยเฉพาะช่วงต้นเรื่องของ Part 2 จนถึงเกือบๆ กลางเรื่องนั้น รู้สึกว่าเดินเรื่องได้อืดมาก ในส่วนของลำดับการเล่าเรื่องก็ไม่กระชับเหมือน Part 1

2. ตัวพระเอก ชินอิจิ แม้จะแสดงได้ดี แต่ให้อารมณ์ต่างจากในมังงะมาก (จุดนี้เป็นอีก 1 จุดที่แฟนมังงะไม่ชอบ แต่ถ้าไม่เคยอ่านมาก่อนอาจจะไม่รู้สึกอะไร)

สรุป > ให้ไปเลยฮะ 8.5 เต็ม 10 นี่คือภาพยนตร์ Live Action อีก 1 เรื่องที่อยากจะแนะนำให้คุณลองชมดูนะฮะ



และในขณะที่เวอร์ชั่น Live Action นี้กำลังจะเข้าฉาย ก็ได้มีการสร้างเป็นเวอร์ชั่น Anime Series ฉายทางทีวีของญี่ปุ่นด้วยเช่นกันในชื่อเรื่อง Parasyte: The Maxim (Kiseijuu: Sei no Kakuritsu)

สุดท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ

Exit mobile version