[Review] Power Rangers (พาวเวอร์ เรนเจอร์ส: ฮีโร่ทีมมหากาฬ) [2017]
Power Rangers (พาวเวอร์ เรนเจอร์ส: ฮีโร่ทีมมหากาฬ) ภาพยนตร์แนวโทคุซัทสึจากค่าย Saban Entertainment ของอเมริกา ที่ซื้อลิขสิทธิ์ซีรีย์ตระกูล Super Sentai ของค่าย โตเอะ ประเทศญี่ปุ่นมาดัดแปลงและตีความใหม่ โดยมีการสร้างออกมาอย่างต่อเนื่องตลอด 20 ปีที่ผ่านมาบนจอทีวีในสหรัฐอเมริกาและแถบซีกโลกตะวันตก ตั้งแต่ปี 1995 ในชื่อ Power Rangers
และในปี 2017 เพื่อเป็นการสร้างแนวทางใหม่ให้กับภาพยนตร์ตระกูล พาวเวอร์ เรนเจอร์ส นี้ ทางผู้สร้างจึงได้ทำการรีบูตภาพยนตร์ชุดนี้ใหม่อีกครั้ง โดยการหยิบเอา ขบวนการจูเรนเจอร์ (Kyōryū Sentai Zyuranger) มาตีความใหม่ให้มีความทันสมัยและสมจริงมากขึ้น ภายใต้การอำนวยงานสร้างและจัดจำหน่ายโดย Lionsgate
เขียนบทโดย John Gatins
กำกับโดย Dean Israelite
นำแสดงโดย
Dacre Montgomery (จากภาพยนตร์เรื่อง Elvis และซีรีส์เรื่อง Stranger Things) รับบทเป็น Jason Lee Scott (Red Ranger)
Naomi Scott (จากภาพยนตร์เรื่อง Aladdin และ Charlie’s Angels) รับบทเป็น Kimberly Hart (Pink Ranger)
RJ Cyler (จากซีรีส์เรื่อง Black Lightning, Scream: Resurrection และ Swamp Thing) รับบทเป็น Billy Cranston (Blue Ranger)
Becky G (จากภาพยนตร์เรื่อง Blue Beatle, ศิลปินนักร้องแนว Latin Pop, Hip Hop และ R&B) รับบทเป็น Trini Kwan (Yellow Ranger)
Ludi Lin (จากภาพยนตร์เรื่อง Monster Hunt, Aquaman และ Mortal Kombat) รับบทเป็น Zack Taylor (Black Ranger)
Elizabeth Banks (จากภาพยนตร์เรื่อง The Hunger Games: Mockingjay – Part 1 และ Pitch Perfect 2) รับบทเป็น Rita Repulsa (Green Ranger)
Bryan Cranston (จากภาพยนตร์เรื่อง Total Recall และ Godzilla) รับบทเป็น Zordon
ตอนนี้สามารรับชมได้แล้วทาง Netflix
เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อราว 65 ล้านปีก่อน ในโลกยุค Cenozoic เหล่า พาวเวอร์ เรนเจอร์ส (ทุกคนเป็นมนุษย์ต่างดาวที่รวมตัวกันเพื่อปกป้องจักรวาล) ได้เข้าต่อสู้กับ Rita Repulsa หรือก็คือ Green Ranger อดีต พาวเวอร์ เรนเจอร์สที่หลงเข้าสู่ด้านมืดและต้องการช่วงชิง Zeo Crystal ที่อยู่บนโลกโดยจะนำไปสร้างเป็นอาวุธทำลายล้างเพื่อหวังที่จะครอบครองจักรวาล และจากการต่อสู้ครั้งนั้นเอง ทำให้เหล่า พาวเวอร์ เรนเจอร์ส ถูกฆ่าตายทั้งหมด ซึ่งก่อนที่ Zordon (Red Rangers) จะสูญเสียพลังทั้งหมดไป ก็ได้รวบรวมเหรียญพลังทั้ง 5 ของ เหล่า พาวเวอร์ เรนเจอร์สและซ่อนเอาไว้ในใต้พื้นโลก เพื่อรอวันที่จะมีผู้ที่เหมาะสม มารับพลังของ พาวเวอร์ เรนเจอร์ส นี้ และสืบทอดเจตนารมณ์ในการปกป้องจักรวาลต่อไป
ตัดมาที่ปัจจุบัน เรื่องราวก็พาไปแนะนำเหล่าเด็กวัยรุ่น 5 คน ที่มีพื้นฐานครอบครัวและวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน ได้แก่ Jason Lee Scott, Kimberly Hart, Billy Cranston, Trini Kwan และ Zack Taylor ที่บังเอิญได้สัมผัสกับเหรียญพลังจนทำให้ได้รับพลังพิเศษ และจำเป็นจะต้องมาสืบทอดเจตนารมณ์ของ พาวเวอร์ เรนเจอร์ส ต่อไป พร้อมกับการกลับมาของ Rita Repulsa ที่ยังคงมุ่งมั่นจะค้นหา Zeo Crystal เพื่อทำตามเป้าหมายให้สำเร็จ เรื่องราวการต่อสู้ของเหล่า พาวเวอร์ เรนเจอร์ส ยุคใหม่จึงได้ถือกำเนิดขึ้นมา พร้อมกับการก้าวข้ามผ่านช่วงชีวิตวัยรุ่นของเด็กหนุ่ม-สาวทั้ง 5 คน
ความคิดเห็นหลังจากดูจบ
สิ่งดีงามที่สุดของหนังเรื่องนี้ อยู่ในช่วง 2 นาทีแรกตอนต้นเรื่องที่พูดถึงเรื่องราวช่วงยุค Cenozoic ตัวหนังมีการดำเนินเรื่องในแบบ Sci-Fi Drama ที่ดูสนุกและเข้มข้นมาก ให้ความรู้สึกแตกต่างจาก พาวเวอร์ เรนเจอร์ส ในแบบที่ผ่านๆ มา แต่พอหลังจากที่หนังพาเข้าสู่เรื่องราวหลักที่เป็นช่วงในยุคปัจจุบัน ตัวหนังก็เริ่มดรอปลงมาอย่างเห็นได้ชัด เพราะใช้เวลาไปกับการปูพื้นตัวละครนานเกินไป แต่ไม่ได้ผลักดันให้หนังเดินหน้าไปอย่างเข้มข้นอย่างที่ควรจะเป็น แม้ว่าในช่วงท้ายเรื่องจะสามารถดึงอารมณ์ความตื่นเต้นกลับขึ้นมาได้บ้าง แต่ก็ยังได้ไม่เท่ากับที่ช่วงต้นเรื่องได้ทำเอาไว้
ในส่วนของงานคอสตูม ยอมรับเลยว่าชอบการออกแบบชุดสูทของแต่ละคนสวยงามมาก โดยใจเลย
และอีกจุดหนึ่งที่ชอบเลย คือการตีความในเรื่องของการควบคุมหุ่นยนต์ Megazord ที่สามารถทำออกมาได้ดี สามารถสื่อให้เราเห็นได้ชัดเจนว่า ในช่วงที่มีการรวมร่างเป็นหุ่นยนต์ Megazord แล้วนั้น การที่แต่ละคนจะต้องควบคุมในส่วนของตัวเองให้สอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกันนั้น เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความเข้าใจ การรู้ใจกัน ต้องประสานใจให้เป็นหนึ่ง ถึงจะสามารถควบคุมหุ่นยนต์ Megazord ได้อย่างดี แต่สิ่งที่น่าผิดหวังสุดๆ เลย ก็คือเราจะไม่ได้เห็นฉากที่แสดงวิธีการรวมร่างของหุ่นยนต์ประจำตัวทั้ง 5 ตัว ให้กลายเป็นหุ่นยนต์ยักษ์ Megazord ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ของหนังตระกูลนี้
ในส่วนของ CG ยอมรับเลยว่าทำออกมาได้สวยมาก โดยเฉพาะชุดสูทของ พาวเวอร์ เรนเจอร์ส และหุ่นยนต์ประจำตัวของแต่ละคน แจ่มจริงๆ ในส่วนของฉากแอ็คชั่นนั้นทำออกมาได้ในระดับกลางๆ ไม่ค่อยจะหวือหวาอะไรมาก แต่ก็ยังดูได้สนุกอยู่
ในส่วนของคาแรคเตอร์ตัวละครเด็กหนุ่ม-สาวทั้ง 5 คนที่จะมาเป็น พาวเวอร์ เรนเจอร์ส นั้น ให้ความรู้สึกถึงความเป็นวัยรุ่นอเมริกันอย่างชัดเจน ค่อนข้างมีความเป็นอเมริกันชนสูงมาก คือเป็นวัยรุ่นที่มีความคิดแบบหัวขบถ, มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่สนใจใคร ไม่ยอมใคร ยกเว้นตัวละครอย่าง Billy Cranston ที่ดูจะเป็นเด็กเนิร์ดและมักจะถูกเพื่อนๆ ในห้องรังแกอยู่เสมอ ซึ่งในจุดนี้ เป็นการตีความของตัวละครที่มาเป็น พาวเวอร์ เรนเจอร์ส ในแบบที่แตกต่างจากตัวละครในแบบเดิมๆ ค่อนข้างมาก
ตัวบทมีหลายๆ จุดที่ดูจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะในเรื่องของแรงจูงใจต่างๆ ที่ทำออกมาแบบหลวมๆ จึงกลายเป็นว่าดูแล้วตลกมากกว่าที่จะอิน รวมถึงไดอะล็อกและบทพูดต่างๆ ที่ดูจะมีความ “พยายาม” ปั้นให้ฟังดูแล้วหล่อดูเท่ห์มากจนเกินไป
โดยรวมของภาพยนตร์เรื่องนี้ เรียกได้ว่ามีความเป็นหนัง Sci-fi Teenage Coming-of-Age ที่จะมีส่วนผสมของภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ที่เคยเข้าฉายก่อนหน้านี้อย่าง Chronicle และ Transformers อยู่เยอะมาก จนทำให้เอกลักษณ์และเสน่ห์หลายๆ อย่างของ เพาเวอร์ เรนเจอร์ส ในแบบต้นฉบับหายไป
สรุป >> ให้ไป 6 เต็ม 10 นะฮะ ก็ถือว่าทำออกมาได้บันเทิง ดูได้สนุกเอามันส์อยู่พอสมควร แต่ก็ไม่ได้มีอะไรที่น่าประทับใจนัก ก็หวังอยู่ว่าหากกระแสตอบรับจากทั่วโลกออกมาในทิศทางที่ดีจนสามารถเข็นโปรเจคภาคต่อออกมาได้ เชื่อว่าน่าจะมีความเข้มข้นและสนุกสนานได้มากกว่านี้แน่นอน