Home Movies Rurouni Kenshin (Trilogy) จากมังงะสุดฮิตของยุค 90 สู่ Live Action สุดมันส์

[รีวิว] Rurouni Kenshin (Trilogy) จากมังงะสุดฮิตของยุค 90 สู่ Live Action สุดมันส์ [Movies]

[REVIEW] KENSHIN (Trilogy) [2012 – 2014]

Rurouni Kenshin (ซามูไรพเนจร) ภาพยนตร์ Live Action สุดมันส์ที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนยอดฮิตของยุค 90 ชื่อเรื่องเดียวกันของอาจารย์ Nobuhiro Watsuki

ภาพยนตร์ชุดนี้ เลือกหยิบเนื้อหาจากหนังสือการ์ตูนในภาค ปฐมบท และภาค ชิชิโอ: เกียวโต มาดัดแปลงใหม่แล้วแบ่งออกเป็น 3 ภาค คือ



Rurouni Kenshin (รูโรนิ เคนชิน ซามูไร X) [2012]

เขียนบทโดย Kiyomi Fujii และ Keishi Ōtomo
กำกับโดย Keishi Ōtomo

นำแสดงโดย
Takeru Satō (จากซีรีส์เรื่อง Kamen Rider Den-O และภาพยนตร์เรื่อง BECK) รับบทเป็น Kenshin Himura
Emi Takei (จากภาพยนตร์เรื่อง For Love’s Sake) รับบทเป็น Kaoru Kamiya
Munetaka Aoki (จากภาพยนตร์เรื่อง Hara-Kiri: Death of a Samurai) รับบทเป็น Sanosuke Sagara
Yū Aoi (จากภาพยนตร์เรื่อง By Chance) รับบทเป็น Megumi Takani
Koji Kikkawa (จากภาพยนตร์เรื่อง Sword Of Desperation) รับบทเป็น Udo Jine
Taketo Tanaka (จากซีรีส์เรื่อง Teppei 1990) รับบทเป็น Yahiko Myojin
Yōsuke Eguchi (จากภาพยนตร์เรื่อง Shaolin Girl) รับบทเป็น Hajime Saito
Go Ayano (จากภพยนตร์เรื่อง Gantz ทั้ง 2 ภาค) รับบทเป็น Gein
Genki Sudo (จากภาพยนตร์เรื่อง R246 Story) รับบทเป็น Banjin Inui
Teruyuki Kagawa (จากภาพยนตร์เรื่อง 20th Century Boys: Trilogy) รับบทเป็น Kanryu Takeda

เรื่องราวกล่าวถึงเหตุการณ์ช่วงต้นยุคเมจิของญี่ปุ่น ในช่วงหลังสิ้นสุดสงครามยุคบะกุมะสึ Himura Kenshin อดีตซามูไรมือสังหารที่โด่งดังที่สุดแห่งยุค เจ้าของฉายา Hitokiri Battōsai พยายามที่จะหันหลังให้กับอดีต วางมือจากการเป็นมือสังหาร และปฏิญาณตนว่าจะไม่ฆ่าใครอีกเลย โดยมีอาวุธคู่ใจคือ ดาบสลับคม ที่ส่วนของคมจะอยู่ที่สันดาบ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องพลั้งมือฆ่าใครได้อีก

เคนชิน ออกเดินทางเร่ร่อนไปยังเมืองต่างๆ ทั่วญี่ปุ่น คอยช่วยเหลือและปกป้องผู้อ่อนแอ เพื่อเป็นการไถ่บาปที่ตัวเขาได้พรากชีวิตผู้คนไปมากมายในอดีต

เคนชิน ต้องพบกับเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆ ที่จะเป็นบทพิสูจน์ความเชื่อที่ว่า สามารถปกป้องผู้คนได้ด้วยการละเว้นการฆ่า ได้หรือไม่



Rurouni Kenshin: Kyoto Inferno (รูโรนิ เคนชิน เกียวโตทะเลเพลิง) [2014]

เขียนบทโดย Kiyomi Fujii และ Keishi Ōtomo
กำกับโดย Keishi Ōtomo

นำแสดงโดย
Takeru Satō (จากซีรีส์เรื่อง Kamen Rider Den-O และภาพยนตร์เรื่อง BECK) รับบทเป็น Kenshin Himura
Emi Takei (จากภาพยนตร์เรื่อง For Love’s Sake และ Love for Beginners) รับบทเป็น Kaoru Kamiya
Munetaka Aoki (จากภาพยนตร์เรื่อง Hara-Kiri: Death of a Samurai และ Princess Sakura: Forbidden Pleasures) รับบทเป็น Sanosuke Sagara
Yū Aoi (จากภาพยนตร์เรื่อง By Chance และ Vampire) รับบทเป็น Megumi Takani
Kaito Oyagi (จากภาพยนตร์เรื่อง Abacus and Sword) รับบทเป็น Yahiko Myojin
Yōsuke Eguchi (จากภาพยนตร์เรื่อง Shaolin Girl และ The Brain Man) รับบทเป็น Hajime Saito
Tatsuya Fujiwara (จากภาพยนตร์เรื่อง Battle Royale และ Death Note ทั้ง 2 ภาค) รับบทเป็น Makoto Shishio
Ryunosuke Kamiki (จากภาพยนตร์เรื่อง 20th Century Boys 3: Redemption) รับบทเป็น Sojiro Seta
Maryjun Takahashi (จากภาพยนตร์เรื่อง Fashion Story: Model) รับบทเป็น Yumi Komagata
Tao Tsuchiya (จากภาพยนตร์เรื่อง Seki Seki Ren Ren) รับบทเป็น Misao Makimachi
Min Tanaka (จากภาพยนตร์เรื่อง The Eternal Zero) รับบทเป็น Okina

ในภาคนี้ หยิบเอาเรื่องราวช่วง บทชิชิโอ: เกียวโต มาเป็นเนื้อเรื่องหลัก เรื่องราวกล่าวถึงเหตุการณ์หลังจากจบภาคแรก  เมื่อ เคนชิน ได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปรกติสุขกับ Kamiya Kaoru และ Takani Megumi ที่สำนักดาบคามิยะ

แต่แล้ว ความสงบสุขก็เกิดขึ้นได้ไม่นาน เมื่อศัตรูตัวฉกาจอย่าง Makoto Shishio และลูกสมุนกลุ่มจุปปงกาตานะ ได้วางแผนที่จะโค่นล้มรัฐบาลเมจิและยึดครองประเทศญี่ปุ่น โดยแผนการแรกคือการทำให้เมืองเกียวโตกลายเป็นทะเลเพลิง

เคนชิน และพรรคพวก รวมถึงกรมตำรวจสันติบาลที่นำโดย Hajime Saito และกลุ่มนินจา โอนิวาบัง ต้องร่วมมือกันขัดขวางและยับยั้งแผนการร้ายของ ชิชิโอ ในครั้งนี้ให้จงได้



Rurouni Kenshin: The Legend Ends (รูโรนิ เคนชิน คนจริง โคตรซามูไร) [2014]

เขียนบทโดย Kiyomi Fujii และ Keishi Ōtomo
กำกับโดย Keishi Ōtomo

นำแสดงโดย
Takeru Satō (จากซีรีส์เรื่อง Kamen Rider Den-O และภาพยนตร์เรื่อง BECK) รับบทเป็น Kenshin Himura
Emi Takei (จากภาพยนตร์เรื่อง For Love’s Sake, Love for Beginners และ Clover) รับบทเป็น Kaoru Kamiya
Munetaka Aoki (จากภาพยนตร์เรื่อง Hara-Kiri: Death of a Samurai, Princess Sakura: Forbidden Pleasures และ A Samurai Chronicle) รับบทเป็น Sanosuke Sagara
Yū Aoi (จากภาพยนตร์เรื่อง By Chance, Vampire และ Space Pirate Captain Harlock) รับบทเป็น Megumi Takani
Kaito Oyagi (จากภาพยนตร์เรื่อง Abacus and Sword และ Ninja Kids!!! Summer Mission Impossible) รับบทเป็น Yahiko Myojin
Yōsuke Eguchi (จากภาพยนตร์เรื่อง Shaolin Girl และ The Brain Man) รับบทเป็น Hajime Saito
Yusuke Iseya (จากภาพยนตร์เรื่อง Kaiji 2 และ Ask This of Rikyu) รับบทเป็น Aoshi Shinomori
Tatsuya Fujiwara (จากภาพยนตร์เรื่อง Battle Royale, Death Note ทั้ง 2 ภาค และ Kaiji ทั้ง 2 ภาค) รับบทเป็น Makoto Shishio
Ryunosuke Kamiki (จากภาพยนตร์เรื่อง 20th Century Boys 3: Redemption และ The Kirishima Thing) รับบทเป็น Sojiro Seta
Ryosuke Miura (จากซีรีส์เรื่อง Kamen Rider OOO) รับบทเป็น Cho Sawagejo
Maryjun Takahashi (จากภาพยนตร์เรื่อง Fashion Story: Model และ Kikaida Reboot) รับบทเป็น Yumi Komagata
Tao Tsuchiya (จากภาพยนตร์เรื่อง Seki Seki Ren Ren และ The Werewolf Game: The Beast Side) รับบทเป็น Misao Makimachi
Min Tanaka (จากภาพยนตร์เรื่อง The Eternal Zero) รับบทเป็น Okina
Masaharu Fukuyama (จากภาพยนตร์เรื่อง Like Father, Like Son) รับบทเป็น Seijuro Hiko
Tomomi Maruyama (จากภาพยนตร์เรื่อง Black Butler) รับบทเป็น Anji Yukyuzan

บทสรุปสุดท้ายของตำนานซามูไรพเนจร บทชิชิโอ กับการประจันหน้ากับศัตรูตัวร้ายที่เป็นถึงมือสังหารมือฉกาจ ที่เดินตามรอยและสืบทอดตำแหน่งนักฆ่ามือสังหารอันดับ 1 แทน บัตโตไซ ที่วางมือไปแล้ว โดยมีชะตากรรมของประเทศญี่ปุ่นเป็นเดิมพัน


ความรู้สึกหลังดูจบทั้ง 3 ภาค
บอกได้เลยว่า นี่คือ ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูน ที่ทำออกมาได้ดีมากๆ เรื่องหนึ่งเลยทีเดียว การดำเนินเรื่องฉับไว สอดแทรกมุมมองความคิดในวิถีของซามูไรได้อย่างชัดเจน เนื้อเรื่องโดยรวมค่อนข้างที่จะหนักและดราม่าพอสมควร ฉากแอ็คชั่นสวยงาม ตื่นเต้นเร้าใจมาก โดยเฉพาะท่าแอ็คต่างๆ ของแต่ละตัวละคร สวยและเท่ห์มาก เรียกได้ว่า แทบจะถอดแบบมาจากหนังสือการ์ตูนแบบเป๊ะๆ เลย

ลักษณะการแสดงออก ทั้งท่าทางและสีหน้าของนักแสดง ให้ความรู้สึกถึงความเป็นมนุษย์จริงๆ ไม่ใช่ดูตัวการ์ตูนอยู่ ซึ่งที่จะขอชื่นชมเลยก็คือ Satō Takeru ที่รับบทเป็น Himura Kenshin ตัวละครเอกของเรื่อง แสดงได้ดีมากๆ โดยเฉพาะกับฉากแอ็คชั่น ที่ทำออกมาได้ดีมาก ดูสวยงาม ท่าทางการใช้ดาบ ดูแล้วไม่ขัดเขินเลย

แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งที่รู้สึกได้คือ การเกลี่ยบทให้ตัวละครแต่ละตัว ยังทำได้ไม่ดีนัก อาจจะเนื่องมาจากความต้องการเซอร์วิสให้กับแฟนมังงะทั้งหลาย เลยกลายเป็นว่า ตัวละครเยอะแยะไปหมด แต่ที่มีบทบาทจริงๆ กลับมีอยู่แค่ไม่กี่ตัว


และสุดท้าย ที่จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้ นั่นคือ เพลงประกอบภาพยนตร์ ที่ใช้ในช่วง End Credit  บอกเลยว่าโดนใจจริงๆ เพราะเป็นการนำเพลงของวง One OK Rock  วงดนตรี J-Rock ที่กำลังมาแรงมากในยุคนี้ มาใช้เป็นเพลงปิดของทั้ง 3 ภาคเลย คือ

One OK Rock – The Beginning >> รูโรนิ เคนชิน ซามูไร X
One OK Rock – Mighty Long Fall >> รูโรนิ เคนชิน เกียวโตทะเลเพลิง
One OK Rock – Heartache >> รูโรนิ เคนชิน คนจริง โคตรซามูไร

สรุป >> ขอให้คะแนนเฉลี่ยรวมทั้ง 3 ภาคเลยละกันฮะ ก็ให้ไป 8.5 เต็ม 10 เลยฮะ โดยรวมแล้วถือว่าเป็น Live Action ที่ดีมากๆ อยากให้ลองหามาชมกัน ยิ่งใครที่ชื่นชอบการต่อสู้แบบซามูไร น่าจะโดนใจเลยแหละ

ท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ

Exit mobile version