[Review] TERRA FORMARS: The Movie (เทอราฟอร์มาร์ส: สงครามฆ่าพันธุ์มฤตยู) [2016]
TERRA FORMARS: The Movie (เทอราฟอร์มาร์ส: สงครามฆ่าพันธุ์มฤตยู) ผลงานดัดแปลงจาก มังงะ แนว Sci-fi ชื่อเดียวกันของอาจารย์ Yū Sasuga (ผู้แต่งเรื่อง) และอาจารย์ Kenichi Tachibana (ผู้วาด)
เขียนบทโดย Kazuki Nakashima
กำกับโดย Takashi Miike
นำแสดงโดย
Hideaki Ito รับบทเป็น Shokichi Komachi
Emi Takei รับบทเป็น Nanao Akita
Tomohisa Yamashita รับบทเป็น Jin Muto
Takayuki Yamada รับบทเป็น Ichiro Hiruma
Kane Kosugi รับบทเป็น God Lee
Rinko Kikuchi รับบทเป็น Asuka Moriki
Masaya Kato รับบทเป็น Keisuke Dojima
Eiko Koike รับบทเป็น Mina Obari
Mariko Shinoda รับบทเป็น Sorae Osako
Kenichi Takito รับบทเป็น Shunji Tezuka
เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวเกิดขึ้นในปีค.ศ. 2599 หลังจากที่เมื่อ 500 ปีก่อน รัฐบาลจากประเทศต่างๆ ร่วมมือกันวางแผนการอพยพประชากรโลกไปยังดาวอังคาร เนื่องจากปัญหาประชากรล้นโลก และส่งผลต่อสภาพแวดล้อมภายในโลกที่อาจจะไม่สามารถอาศัยอยู่ได้อีกต่อไป โดยการส่งต้นมอสและ “แมลงสาบ” ไปยังดาวอังคาร เพื่อปรับสภาพแวดล้อมและอุณหภูมิบนดาวอังคารให้เหมาะสมแก่การอยู่อาศัยของประชากรโลกได้
โครงการ Bug 1 จึงได้เกิดขึ้น จากการเฝ้าติดตามความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมบนดาวอังคาร โดยการส่งทีมวิจัยขึ้นไปสำรวจบนดาวอังคาร แต่แล้วเหล่าทีมวิจัยเหล่านั้น กลับถูกโจมตีด้วยสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งจนตายเกลี้ยงทั้งทีม ซึ่งก่อนที่สมาชิกทีมวิจัยจะถูกสังหาร พวกเขาสามารถส่งข้อมูลต่างๆ จากการสำรวจในครั้งนี้กลับมายังโลกได้ทัน และด้วยข้อมูลดังกล่าว ทำให้รู้ทีมพัฒนาโครงการนี้ได้รับรู้ว่า สภาพแวดล้อมบนดาวอังคารนั้นถูกปรับเปลี่ยนและสามารถให้มนุษย์อยู่อาศัยได้แล้ว
10 ปีต่อมา โครงการ Bug 2 จึงได้ถูกจัดตั้งขึ้น โดยมีเป้าหมายในการส่งคนจำนวนหนึ่งขึ้นไปยังดาวอังคาร เพื่อทำการกวาดล้างสิ่งมีชีวิตที่ถูกค้นพบจากโครงการ Bug 1 และเคลียร์พื้นที่ทั้งหมดให้พร้อมรับการอพยพคนจากโลกมายังดาวอังคาร ซึ่งทีมกวาดล้างนี้ จะได้รับการตัดต่อเปลี่ยนแปลงพันธุกรรม (DNA) ของแต่ละคน ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับภาระกิจที่ได้รับมอบหมายและสามารถต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคารนั้นได้
และแล้ว สงครามการแย่งชิงพื้นที่บนดาวอังคารจึงได้เริ่มต้นขึ้น
ความคิดเห็นหลังดูจบ
ในการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ครั้งนี้ เป็นการนำเนื้อหาจากมังงะเล่ม 1 เพียงเล่มเดียวมาใช้ โดยมีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาบางส่วนเพื่อให้กระชับขึ้นและสามารถจบได้ภายในเวลา 110 นาที ซึ่งโดยรวมถือว่าทำออกมาได้แบบที่เรียกได้ว่าเคารพต้นฉบับมาก เกือบ 80% ของเรื่องแทบจะถอดออกมาจากมังงะแบบฉากต่อฉากเลยทีเดียว
และแม้ในบางช่วง จะมีช่วงเนือยๆ อยู่บ้างก็ตาม แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างสนุก โดยเฉพาะฉาก Action ทำได้สนุกและตื่นเต้นมาก ในส่วนของ CG จัดว่าดีเลยทำออกมาได้เหมือนในมังงะมากๆ โดยเฉพาะในส่วนของ Costume Make-Up นี่ แจ่มมาก
สรุป >> ให้ไป 7.5 เต็ม 10 ฮะ จัดว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากมังงะได้ดีอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
ท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ