Home Movies The Adam Project เมื่ออดัมต้องช่วยตัวเองให้บรรลุเป้าหมาย

[รีวิว] The Adam Project เมื่ออดัมต้องช่วยตัวเองให้บรรลุเป้าหมาย [Movie]

[Review] The Adam Project [2022]

The Adam Project ภาพยนตร์แนว Action Sci-Fi Adventure ของผู้กำกับ Shawn Levy (ที่กำกับภาพยนตร์เรื่อง Free Guy มาก่อนหน้านี้) จากผลงานการเขียนบทของ Jonathan Tropper, T.S. Nowlin, Jennifer Flackett และ Mark Levin

งานนี้ได้นักแสดงที่เคยฝากผลงานฮีโร่ของค่าย Marvel มาแล้วทั้งนั้น ทั้ง Ryan Reynolds (จาก Deadpool), Mark Ruffalo (จาก Hulk), Jennifer Garner (จาก Elektra เวอร์ชั่น 2005), และ Zoe Saldaña (จาก Guardians of the Galaxy) ร่วมด้วย Walker Scobell และ Catherine Keener

รับชมได้ทาง Netflix

เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวของ Adam Reed (รับบทโดย Ryan Reynolds) นักบินเครื่องบินขับไล่จากยุค Dystopia ปี 2050 ที่ได้ขโมยเครื่องบินข้ามเวลา (Time Jet) โดยมีเป้าหมายในการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจบางอย่างในปี 2018 แต่ในช่วงเวลาก่อนที่เขาจะจัมพ์เข้ารูหนอนเพื่อเดินทางข้ามเวลา เครื่องบินของเขาก็ได้ถูกโจมตี จึงทำให้เป้าหมายการลงจอดของเขาผิดพลาดมาโผล่ที่ช่วงปี 2022 แทน

ซึ่งที่นั่นเองที่เขาได้พบกับ Adam Reed (รับบทโดย Walker Scobell) หรือก็คือตัวเขาในวัย 12 ปีนั่นเอง ซึ่งจากการถูกโจมตีก่อนเข้าสู่การจัมพ์ นอกจากจะทำให้เครื่องบินเสียหายแล้ว ตัวของ อดัม วัยผู้ใหญ่เองก็ถูกยิงได้รับบาดเจ็บเช่นกัน จึงทำให้เขาจำใจต้องขอร้องให้ อดัม วัยเด็กช่วยเหลือ เพื่อปฏิบัติภารกิจตามที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ต้นสำเร็จให้ได้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้

เรื่องราวฮาๆ วายป่วง แต่สุดแสนประทับใจจึงได้เริ่มต้นขึ้น

ความรู้สึกหลังดูจบ
เอาตรงๆ นะฮะ คือเริ่มเบื่อกับคาแรคเตอร์แบบนี้ของ ไรอัน เรย์โนลด์ แล้วอ่ะฮะ ไอคาแรคเตอร์ประเภทปากจัด พูดมาก ชอบจิกกัดไปทั่ว ซึ่งหลังๆ เราจะได้เห็นคาแรคเตอร์แบบนี้ในหนังเกือบจะทุกเรื่องของเขาเลย

แต่ถ้าไม่คิดอะไรมาก โดยรวมก็ถือว่าหนังทำออกมาได้สนุกเลยนะฮะ เดินเรื่องไวและน่าติดตามดีฮะ และที่ชอบเลยก็คือมุกที่ อดัม วัยผู้ใหญ่จะต้องมาคอยเถียงกับตัวเองในวัยเด็ก ซึ่งยอมรับเลยว่าเจ้าหนู วอร์กเกอร์ สโกเบลล์ นี่ช่างถอดคาแรคเตอร์ของ ไรอัน เรย์โนลด์ มาได้เป็นอย่างดีเลยฮะ ต่อปากต่อคำกันได้แบบเข้าขากันดีมาก ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองก็ยังไม่เคยมีประสบการณ์ทางด้านการแสดงมาก่อนเลย

ตลอดทั้งเรื่องหนังยังมีความพยายามที่จะทำออกมาเป็นหนังแนวครอบครัวอีกต่างหาก ซึ่งถามว่าดีมั้ย ก็ตอบได้เลยว่า ดีฮะ มีหลายพาร์ทที่ดูแล้วให้ความรู้สึกที่ดีและน้ำตารื้นได้อยู่เหมือนกันนะฮะ (แต่ส่วนตัวรู้สึกว่า ไรอัน เรย์โนลด์ เล่นบทดราม่าซึ้งๆ ประมาณนี้ยังไม่ค่อยถึงเท่าไหร่นัก)

ส่วนตัวร้ายของเรื่อง ก็มาอารมณ์ประมาณ Home Alone อ่ะฮะ เหมือนจะเก่งแต่ง่อยมาก เหมือนจะมีอะไรลึกลับแต่ก็งั้นๆ ไร้ชั้นเชิง ซึ่งถ้าบอกว่านี่คือหนังที่ผลิตโดยค่ายดิสนีย์ ก็เชื่อได้อย่างไม่ขัดใจเลย ฟีลลิ่งประมาณนั้นเลย

ทางด้านฉากแอ็คชั่น หลายๆ ฉากก็ทำออกมาได้สนุกและตื่นเต้นดีเลยฮะ เพียงแค่ว่ามันไม่ได้มีฉากอะไรใหญ่โตมากมาย ไม่ได้ถึงขนาดระเบิดภูเขาเผากระท่อม ตูมตาม หรือวินาศสันตะโรอะไร แต่สำหรับงาน CG นี่คือดีเลยฮะ สวยงามดี เนียนกริ๊ป

ส่วนในแง่ของกฎเกี่ยวกับการข้ามเวลา ก็ไม่ต้องไปสนใจอะไรมันมากฮะ ปล่อยผ่านๆ ไปดีกว่า แม้จะมีพูดถึงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ไปเน้นอะไรตรงนั้นนะฮะ (เหมือนจะงงๆ และขัดแย้งตัวเองอยู่หน่อยๆ)

สรุป >> ให้ไป 7.5 เต็ม 10 ฮะ เป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ ทั้งครอบครัวฮะ สนุกและตื่นเต้นดี แต่อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ชอบดูหนังที่มีเนื้อหาเข้มๆ นะฮะ

ท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ

Exit mobile version