Home Movies Tokyo Ghoul เมื่อมนุษย์ไม่ได้เป็นผู้ที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร

[รีวิว] Tokyo Ghoul เมื่อมนุษย์ไม่ได้เป็นผู้ที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร [Movie]

[Review] Tokyo Ghoul (คนพันธุ์กูล) [2017]


Tokyo Ghoul (คนพันธุ์กูล, 東京喰種) ภาพยนตร์แนว Dark Fantasy Action Horror ที่ดัดแปลงมาจากมังงะดังชื่อเรื่องเดียวกัน จากผลงานของอาจารย์ Sui Ishida

เขียนบทโดย Ichirō Kusuno
กำกับโดย Kentarō Hagiwara

เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวกล่าวถึงโลกปัจจุบันที่เหล่าอมนุษย์ที่เรียกว่า Ghoul อาศัยซ่อนเร้นแฝงกายอยู่ร่วมกันกับมนุษย์โดยที่ไม่มีมนุษย์คนใดสามารถล่วงรู้ตัวตนที่แท้จริงได้เลยว่า ใครเป็น กูล เพราะรูปลักษณ์ภายนอกของ กูล จะเหมือนมนุษย์ปรกติทั่วไป

แล้ว กูล คืออะไร ตามนิยามในเรื่อง กูล คือสิ่งมีชีวิตประเภทหนึ่งที่สามารถดำรงชีพอยู่ได้ด้วยการ “กิน” มนุษย์เป็นอาหาร กูล จะไม่สามารถกินอาหารอื่นได้เลยนอกจากเนื้อของ “มนุษย์” เท่านั้น 

และด้วยความที่เป็นอันตรายต่อ “มนุษย์” ทางกรมตำรวจจึงได้จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษขึ้นมา ซึ่งนำทีมโดย Kureo Mado (รับบทโดย Yo Oizumi) และ Kōtarō Amon (รับบทโดย Nobuyuki Suzuki) เพื่อดำเนินการตามล่าและจำกัด กูล โดยเฉพาะ 

อีกทางด้านหนึ่ง ในขณะที่ Ken Kaneki (รับบทโดย Masataka Kubota) นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมดาคนหนึ่ง ได้มีโอกาสออกเดทกับสาวสวยคนหนึ่งที่ชื่อ Rize Kamishiro (รับบทโดย Yū Aoi) ที่เขาแอบชอบมานาน โดยที่เขามิอาจล่วงรู้ได้เลยว่าในค่ำคืนนั้นจะเป็นคืนที่เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล

คาเนกิ ต้องกลายมาเป็นครึ่งคนครึ่งกูล จากการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเพื่อช่วยเหลือชีวิตของเขาเอง เขาต้องทนทุกข์ทรมานจากพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไป รวมถึงการปรับตัวเพื่อยอมรับในการใช้ชีวิตในแบบของ กูล

เนื้อเรื่องหลักๆ ก็จะประมาณนี้ คือจะโฟกัสไปที่ คาเนกิ ซะเป็นส่วนใหญ่ นอกเหนือจากนั้นก็จะเป็นเรื่องของการต่อสู้ระหว่าง หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กับ Ghoul

ความคิดเห็นหลังดูจบ
ภาพยนตร์เรื่องนี้เลือกหยิบเนื้อหาจากมังงะเล่ม 1-3 มาดัดแปลง และก็ตามปรกติของหนัง Live Action ที่สร้างมาจากมังงะ คือ จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในบางจุด หรือตัดทอน ลดบทบาทตัวละครบางตัวออกไป จึงกลายเป็นว่าในซีนอารมณ์หลายๆ จุดที่มังงะนำเสนอ ถูกดัดแปลง ตัดทอน และตีความใหม่ไปพอสมควร ซึ่งอาจทำให้คนที่ไม่เคยอ่านมังงะมาก่อนจะรู้สึกเบื่อหรือไม่เข้าใจในเนื้อหาได้ เพราะโดยรวมของภาพยนตร์เรื่องนี้มีฉากที่เป็นบทสนทนาค่อนข้างเยอะมาก

ในส่วนของฉากแอ็คชั่น แม้จะมีไม่ค่อยมากนัก แต่ว่าพอถึงแต่ละฉากถือว่าทำได้ดี ดูสนุกและน่าตื่นเต้นมาก ในส่วนของ CG ก็ถือว่าสอบผ่านตามมาตราฐานหนังของ Live Action

แต่ที่ต้องของชื่นชมเลยก็คือ การแสดงของ Masataka Kubota ที่ถ่ายทอดอารมณ์ของครึ่งกูลครึ่งคนได้ดีมากๆ รวมถึงแอ็คติ้งต่างๆ ก็ทำได้ดี (แม้ว่าหน้าตาจะดูแก่เกินกว่าจะเป็นเด็กมหาวิทยาลัยก็เถอะนะ)

ท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ

Exit mobile version