[รีวิว] the Walking Dead เมื่อโลกเต็มไปด้วยเหล่าผู้ฟื้นจากความตาย [Series]

[Review] The Walking Dead (ล่าสยองทัพผีดิบ) [2010-2022]

the Walking Dead (ล่าสยองทัพผีดิบ) ทีวีซีรีส์แนว Post-Apocalyptic Horror Drama ที่ดัดแปลงมาจาก Comics ชื่อเรื่องเดียวกันของ Robert Kirkman, Tony Moore และ Charlie Adlard เรื่องราวกล่าวถึงการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ซอบบี้ครองโลก

ผลงานการสร้างของ Frank Darabont

มีทั้งหมด 11 Season สามารถรับชมทุกซีซั่นแบบครบถ้วนได้แล้วทางช่อง Disney+ Hotstar

เรื่องย่อ/เนื้อเรื่อง
เรื่องราวของ Rick Grimes (นำแสดงโดย Andrew Lincoln) ผู้ช่วยนายอำเภอ ที่ฟื้นขึ้นจากอาการโคม่า หลังจากที่ถูกคนร้ายยิงในขณะออกปฏิบัติการ เมื่อ ริค ฟื้นขึ้นมา ก็ได้พบว่า โลกไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไป กลายเป็นโลกที่เต็มไปด้วยเหล่าคนตาย ที่ฟื้นขึ้นมาและพร้อมจะรุมเข้ากัดกินคนเป็น

ริค ต้องพยายามตั้งสติ และพาตัวเองกลับไปพบลูกและเมียที่บ้านให้ได้

แต่เมื่อไปถึง เขาได้พบว่า เมืองทั้งเมือง รวมถึงบ้านของเขา ไม่เหลือใครอยู่อีกเลย นอกจากเหล่า Walker คนตายที่ฟื้นขึ้นมา เขาจึงต้องออกเดินทางเพื่อตามหาลูก-เมียของเขา ด้วยความหวังว่าลูก-เมียจะยังมีชีวิตอยู่

และนี่คือเรื่องราวจุดเริ่มต้นของการผจญภัยของ ริค ไกร์ม

ความรู้สึกหลังจากได้ดู
ทั้งรายละเอียดของเนื้อหา, ตัวละครและการดำเนินเรื่องนั้นแตกต่างจากคอมิกส์ไปพอสมควรเลย จะมีก็เพียงแค่โครงเรื่องหลักๆ ที่เกาะเอาไว้เท่านั้น ซึ่งโดยส่วนตัวชอบมากกว่าต้นฉบับที่เป็นคอมิกส์มากๆ ทั้งแอ็คชั่นและดราม่าทำออกมาได้ดีมากๆ จนเราอินไปกับเนื้อเรื่องและหลงรักตัวละครหลายๆ ตัวในเรื่อง

ในช่วงแรกๆ จะเป็นเรื่องของการต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดจากเหล่า Walker เป็นหลัก แต่ในช่วงซีซั่นหลังๆ นั้น ตัวซีรีส์ จะค่อยๆ พา “คนดู” ไปถึงด้านมืดของ “มนุษย์” ที่ต่างก็พยายามจะพาตัวเองให้รอด เป็นการถ่ายทอดให้เห็นถึงความน่ากลัวของ “มนุษย์” ที่สามารถทำได้ทุกอย่าง เพื่อให้ตัวเอง “รอด” 

ซึ่งทำให้เราอดคิดไม่ได้เลยว่า “มนุษย์” นั้นน่ากลัวได้เพียงใด

เป็นซีรีส์ที่มีความรุนแรงค่อนข้างมาก เลือดสาด ชิ้นเนื้อกระจาย มีครบทุกรส ทั้งความระทึกขวัญ ดราม่า แอ็คชั่น หักมุม และทำร้ายจิตใจ “คนดู” ได้ตลอดทุกซีซั่น บางฉากบางตอน สามารถพาคนดูให้ลงลึกไปถึงจุดที่หดหู่สุดๆ

สิ่งที่น่าเสียดายที่สุดสำหรับคนรักซีรีส์ชุดนี้ก็คือ ยิ่งทำยิ่งออกทะเลไปไกลโข จนกระทั่งเรตติ้งจากทั่วโลกเริ่มที่จะดิ่งลงเรื่อยๆ ทุกซีซั่น โดยเฉพาะหลังซีซั่น 8 ที่ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนของทั้งตัวซีรีส์เอง รวมถึงความรู้สึกของแฟนๆ ที่รักซีรีส์ชุดนี้

เนื้อเรื่องในช่วงซีซั่นหลังๆ นี้เริ่มวนเวียนอยู่กับพลอตเรื่องเดิมๆ ไม่ไปไหนซะที เปลี่ยนแค่ตัวบอสประจำซีซั่น และที่สำคัญขาดซีนดราม่าเด็ดๆ ไว้กระชากใจผู้ชม อีกจุดหนึ่งก็คือตัวละครใหม่ๆ ที่สร้างขึ้นมาก็ขาดเสน่ห์อย่างมาก จนทำให้คนดูไม่ตกหลุมรักตัวละครใหม่ๆ ตัวไหนเลยเป็นพิเศษ อีกทั้งยิ่งเมื่อขาดตัวละครเก่าๆ ที่คนดูเคยหลงรักไปแล้วด้วย ก็ไม่มีอะไรที่จะผูกพันธ์และต้องคอยตามเชียร์กันอีกต่อไป

สรุป >> ให้ไป 8 เต็ม 10 เลยฮะ (คะแนนเฉลี่ย 11 ซีซั่น) นี่คือซีรีส์ที่เต็มไปด้วยความหวัง และความสิ้นหวัง สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตลอดทั้งซีรีส์ จากเป้าหมายที่เริ่มจากการค้นหาบุคคลอันเป็นที่รัก สู่การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด

---

และจากกระแสความโด่งดังของซีรีส์ชุดนี้ จึงทำให้เกิดภาค Spin-Off ขึ้นอีกหลายเรื่องเลย เริ่มจาก

– Fear the Walking Dead เริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2015 โดยเนื้อหาจะเริ่มต้นในช่วงเวลาที่ ริค ไกร์ม อยู่สภาวะโคม่าในโรงพยาบาล (โดยเริ่มต้นจะเป็นการเล่าเรื่องราวของตัวละครกลุ่มอื่น ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับซีรีส์หลักชุดนี้ จนมีตัวละครจากซีรีส์หลักมาครอสโอเวอร์ตั้งแต่ช่วงซีซั่น 4 เป็นต้นไป)

– the Walking Dead: World Beyond เริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2020 โดยจะเล่าเรื่องราวในช่วงประมาณ 10 ปีหลังเกิดเหตุการณ์โลกล่มสลาย กับกลุ่มตัวละครเด็กที่ต้องเติบโตมาในโลกที่ล่มสลายแล้ว

นอกจากนี้ในปี 2023 ยังจะมีซีรีส์ภาคแยกของตัวละครในจักรวาลหลักอีก 3 เรื่องคือ
– the Walking Dead: Dead City – มินิซีรีส์ภาคแยกที่เล่าเรื่องราวการเดินทางไปยังเมือง New York ของตัวละคร Maggie Greene และ Negan มีกำหนดการฉายเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2566
– the Walking Dead: Dixon – มินิซีรีส์ภาคแยกที่เล่าเรื่องราวการเดินทางไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ของตัวละคร Daryl Dixon (ยังไม่ประกาศวันฉาย)
– the Walking Dead: Rick & Michonne – มินิซีรีส์ภาคแยกที่เล่าเรื่องราวบทสรุปของ Rick Grimes และ Michonne Grimes (Michonne Hawthorne) ซึ่งเดิมทีซีรีส์ชุดนี้ ถูกวางแผนจะให้เป็นฉบับภาพยนตร์ไตรภาค แต่ด้วยเหตุปัจจัยหลายๆ อย่าง (รวมถึงผลกระทบจากเหตุการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาด) ทางทีมงานจึงได้เปลี่ยนแผนมาเป็นฉบับมินิซีรีส์จำนวน 6 ตอนจบแทน (ยังไม่ประกาศวันฉาย)

ท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยนะฮะ คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ