[Review] Dragon Ball SD [2010 – Present]
Dragon Ball SD ลิขสิทธิ์ฉบับภาษาไทย
– จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์ NED Comics
– พิมพ์สี่สีทั้งเล่ม
– ราคาปก 235 บาท
– ณ วันที่เขียนรีวิวออกถึงเล่ม 6 มีการ์ดแถมมาให้ด้วยในพิมพ์แรกเล่มละ 1 ใบ (ต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นออกถึงเล่ม 10)
Dragon Ball มังงะระดับตำนานของอาจารย์ Toriyama Akira ที่ในเวอร์ชั่นนี้จะเป็นการนำเรื่องราวฉบับดั้งเดิมของ ดรากอนบอล มานำเสนอใหม่ในรูปแบบของลายเส้นแบบ เอสดี ซึ่งตัวละครจะเป็นลักษณะตัวป้อมๆ ตุ้ยๆ เตี้ยๆ ตะมุตะมิ น่ารักๆ ที่ยังคงใช้โครงเรื่องหลักแบบเดิมอยู่ แต่จะมีการดัดแปลงปรับเปลี่ยน/ตัดทอนเนื้อหาบางส่วนเล็กน้อยและมีการเพิ่มเติมมุกตลกเสริมเข้าไป โดยฉบับ เอสดี นี้จะเป็นการวาดลายเส้นโดยอาจารย์ Ohishi Naho
เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวการผจญภัยตามหาลูกแก้วมังกรศักดิ์สิทธิ์ ที่หากใครรวบรวมลูกแก้วมังกรได้ครบทั้ง 7 ลูก จะสามารถเรียกเทพเจ้ามังกรออกมาเพื่อขอพรอะไรก็ได้ 1 อย่าง
เรื่องราวเริ่มต้นที่เด็กสาวจากเมืองใหญ่ชื่อ บูลม่า ได้ออกเดินทางตามหาลูกแก้วมังกรเพียงลำพัง จนกระทั่งเธอได้มาพบกับ ซงโกคู เด็กชายที่อาศัยอยู่ในป่าลึก และพบว่า โกคู ก็มีลูกแก้วมังกรเก็บไว้อยู่กับตัว 1 ลูก แต่เนื่องจากลูกแก้วมังกรดังกล่าวเป็นเสมือนของดูต่างหน้าของคุณปู่ที่เสียชีวิตไปแล้ว โกคู จึงไม่ยอมมอบให้ แต่เขาได้รับปากกับ บูลม่า ว่า ถ้า บูลม่า จะใช้งานในตอนที่รวบรวมลูกอก้วมังกรลูกอื่นๆ ได้ครบแล้ว เขาจะให้ บูลม่า ยืมใช้เพื่อจะได้เรียกเทพเจ้ามังกรออกมา
บูลม่า จึงได้ชักชวน โกคู ให้เดินทางไปกับเธอเพื่อตามหาลูกแก้วมังกรที่เหลืออยู่ ซึ่งกระจัดกระจายไปทั่ว
และนั่นเองคือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในตำนานที่ยิ่งใหญ่และยาวนานมาจนถึงทุกวันนี้
ความรู้สึกหลังจากได้อ่าน
อย่างที่บอกไปตอนต้นนะฮะ ว่าเวอร์ชั่นนี้เป็นการนำโครงเรื่องของเวอร์ชั่นต้นฉบับมาตีความใหม่ โดยมีการแก้ไขเนื้อหาบางส่วนบ้างเล็กน้อยและเสริมด้วยมุกตลกต่างๆ เข้าไป อีกทั้งยังมีการตัดตอนรวบรัดเนื้อหาทั้งหมดให้กระชับลงอย่างมาก
นั่นจึงทำให้การ์ตูนชุดนี้ เหมาะกับแฟนด้อมของ ดรากอนบอล มากกว่า เพราะคุณจะเข้าถึงมุกฮาต่างๆ ที่เพิ่มเติมเข้ามาตลอดทั้งเรื่อง แต่ถ้าคุณไม่เคยอ่านหรือติดตามดรากอนบอลเวอร์ชั่นต้นฉบับมาก่อนเลย คุณน่าจะงงกับหลายๆ มุก เช่น มุกที่ บูลม่า พูดถึงความต้องการของคำอธิษฐานว่าอยากได้เนื้อคู่ที่ผูกกันด้วยด้ายแดง แล้วในช่องต่อไปก็เสนอภาพของ เบจิต้า ที่จามออกมาเหมือนกำลังถูกคนนินทาอยู่ เป็นต้น ซึ่งมุกนี้ถ้าเป็นแฟนดรากอนบอลจะรู้อยู่แล้วว่า เบจิต้า คือใคร แต่ถ้าคนไม่เคยตามอ่านมาก่อนเลย คงจะงงว่าอิตานี่เป็นใครกันแน่
สำหรับลายเส้นนี่คือดีเลยฮะ ให้ความรู้สึกถึงงานของอาจารย์โทริยาม่าเลยฮะ เก็บรายละเอียดต่างจากเวอร์ชั่นต้นฉบับได้อย่างครบถ้วน ส่วนสีสรรก็สวยงาม แจ่มชัด สดใสดีมากๆ ฮะ
สรุปเนื้อหาในแต่ละเล่มได้เป็นดังนี้
– เล่ม 1 จบที่ช่วงเริ่มการต่อสู้ศึกชิงเจ้ายุทธภพครั้งแรกของ ซงโกคู และ คุริริน
– เล่ม 2 จบที่ช่วงการต่อสู้กับ นายพลบูล ของ กองทัพโบว์แดง [เรดริบบอน]
– เล่ม 3 จบศึกกับ กองทัพโบว์แดง [เรดริบบอน] ซึ่งการต่อสู้กับนักฆ่าอันดับ 1 อย่าง เถาไปไป กับ การปีนหอคอยคาริน ก็จะอยู่ที่เล่มนี้แหละฮะ)
– เล่ม 4 จบที่ช่วงเริ่มต้นการต่อสู้ของ ยามูชา VS เท็นชินฮัง ในศึกชิงเจ้ายุทธภพครั้งที่ 22 (ในเล่มนี้จะมีเนื้อหาที่แต่งเพิ่มเติมจากต้นฉบับเยอะขึ้น)
– เล่ม 5 ช่วงกลางเล่มจะจบศึกชิงเจ้ายุทธภพครั้งที่ 22 จากนั้นเรื่องราวจะข้ามช่วงศึกการต่อสู้กับจอมมารปีศาจ พิกโกโร่ ไปเลย และจะเข้าสู่เรื่องราวของ Dragon Ball Z เลยนะฮะ และจบเล่มนี้ที่การต่อสู้กับแกงค์ ไซไบแมน ของ เบจิต้า กับ นัปป้า
– เล่ม 6 จบศึกการต่อสู้กับ เบจิต้า บนโลกมนุษย์
สรุป >> ให้ไป 8 เต็ม 10 นะฮะ เป็นอีกหนึ่งงานคุณภาพที่น่าสะสมมากๆ เหมาะสำหรับแฟนๆ ดรากอนบอลทุกคนเลยฮะ แต่สำหรับคนที่ไม่เคยติดตามดรากอนบอลมากก่อนเลย อาจจะงงๆ ในเนื้อหาอยู่สักหน่อยนะฮะ เพราะอย่างที่บอกอ่ะฮะว่ามีการตัดตอนรวบรัดเนื้อหาเยอะมากและแทรกมุกอนาคตอีกเพียบ