[รีวิว] 4 KINGS 2 หนังภาคต่อที่ทำออกมาได้ประทับใจกว่าภาคแรก [Movie]

[Review] 4 KINGS 2 [2023]

4 KINGS 2 ภาพยนตร์ Action Crime Thriller Drama งานภาคต่อของ 4 Kings: 4 คิงส์ อาชีวะยุค 90 ภาพยนตร์ที่สร้างปรากฎการณ์ในช่วงปีพ.ศ. 2564 ในฐานะภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดแห่งปี

เขียนบทภาพยนตร์โดย พุฒิพงศ์ นาคทอง และ รัตนพล ปากเพรียว
กำกับภาพยนตร์โดย พุฒิพงศ์ นาคทอง

นำแสดงโดย
สมพล รุ่งพาณิชย์ รับบทเป็น บ่าง กนก
ณัฐวุฒิ เจนมานะ รับบทเป็น หนุ่ย กนก
ภัทร เอกแสงกุล รับบทเป็น เค กนก
ทศพล หมายสุข รับบทเป็น ตุ้มเม้ง กนก
สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร รับบทเป็น รก บุรณพนธ์
สิราษฎร์ อินทรโชติ รับบทเป็น เอก บุรณพนธ์
เบนจามิน โจเซฟ วาร์นี รับบทเป็น เค บุรณพนธ์
อุกฤษ วิลลีย์ บรอด ดอนกาเบรียล รับบทเป็น ยาท เด็กบ้าน
อินทิรา เจริญปุระ รับบทเป็น บุ้ง (พี่สาวของบ่าง กนก)
วาสนา ชลากร รับบทเป็น ป้ามะ
สุธีรัชย์ ชาญนุกูล รับบทเป็น หัวหน้าของยาท
สหัสชัย ชุมรุม รับบทเป็น ชัย (ตาของยาท)
สหจักร บุญธนกิจ รับบทเป็น เฉลิม อาจารย์ของกนกเทคโนโลยี
วิทยา ปานศรีงาม รับบทเป็น นิพนธ์ ผอ.โรงเรียนช่างกลบุรณพนธ์
ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง รับบทเป็น พ่อของ รก บุรณพนธ์ (รับเชิญ)
วาสนา พูนผล รับบทเป็น แม่ของ รก บุรณพนธ์ (รับเชิญ)
ธามไท แพลงศิลป์ รับบทเป็น แม็กซ์ ประชาชล (รับเชิญ)
อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ รับบทเป็น มด ประชาชล (รับเชิญ)
ณัฏฐ์ กิจจริต รับบทเป็น โอ๋ ประชาชล (รับเชิญ)
อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี รับบทเป็น บิลลี่ อินทร (รับเชิญ)
กลุ่มศิลปินโมเดิร์นด็อก รับบทเป็น โมเดิร์นด็อก (รับเชิญ)
เชษฐ์/ดิษ/หนึ่ง (กลุ่มศิลปินสไมล์บัฟฟาโล่) รับบทเป็น กลุ่มลูกค้าในร้านอาหาร (รับเชิญ)
คาริญญ์ยวัฒ ดุรงค์จิรกานต์ รับบทเป็น เด็กช่างเฉลิมสาสน์ (รับเชิญ)
พุฒิพงษ์ นาคทอง รับบทเป็น พนักงานบริการในห้องน้ำ (รับเชิญ)
ก้องเกียรติ โขมศิริ รับบทเป็น นักโทษที่อยู่ในห้องขัง (รับเชิญ)
อรุณ ภาวิไล รับบทเป็น ลุงตกปลา (รับเชิญ)
ภูมิภัทร ถาวรศิริ รับบทเป็น นักศึกษา (รับเชิญ)

รับชมได้ทาง Netflix

เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
ในภาคนี้จะดำเนินเรื่องต่อจากภาคแรก แต่จะโฟกัสไปที่เรื่องราวของกลุ่มคน 3 กลุ่มได้แก่ กลุ่มนักเรียนสถาบันกนกอาชีวะ (บ่าง, เค, หนุ่ย และ ตุ้มเม้ง), กลุ่มนักเรียนสถาบันบุรณพนธ์ (รก, เอก และ เค) และ ยาท เด็กบ้าน กับเรื่องราวของศึกแห่งศักดิ์ศรีระหว่างสถาบันที่ยังคงดำเนินต่อมา

ความรู้สึกหลังดูจบ
ว่ากันในส่วนของพลอตเรื่องหลักก็ยังคงไม่มีอะไรต่างจากภาคแรกนะฮะ ก็เป็นราวของศึกสถาบันเช่นเคย แต่สิ่งที่แตกต่างจากภาคแรกก็คือการลงรายละเอียดปูมหลังของตัวละครแต่ละตัวทำได้ดีขึ้น ทำให้ตัวละครมีมิติมีความเป็นคนมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการแก้ปัญหาจากภาคแรกได้ดีและสามารถตอบโจทย์ในสิ่งที่ผู้สร้างมุ่งหวังจะสะท้อนปัญหาสังคมเพื่อมอบไว้ให้เป็นอุทาหรณ์ได้อย่างที่ตั้งใจสักที

ในส่วนของการตัดต่อเพื่อเล่าเรื่องก็ทำได้ดีขึ้นส่งผลให้อารมณ์ของหนังดูลื่นไหลได้ดี (แต่ก็ยังมีบางช่วงที่ยังจบซีนแบบห้วนๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากนัก)

จุดที่ไม่ชอบที่สุดกลับกลายเป็นฉากการตีกันของกลุ่ม กนกอาชีวะ และ บุรณพนธ์ ที่ไม่ได้มีความสนุกเท่าไหร่นัก ยกเว้นฉากแอ็คชั่นช่วงต้นเรื่องที่เป็นที่มาของประโยคที่ ยาท พูดว่า “มึงรู้จักโรเบอร์โต้ คาร์ลอสปะ” นั่นล่ะฮะคือ The Best แล้ว และมันทำให้เราคาดหวังว่าจะได้เจอฉากแอ็คชั่นเดือดๆ อะไรแบบนี้อีก แต่กลายเป็นว่าฉากแอ็คชั่นที่เหลือกกลายเป็นฉากต่อยตีกันธรรมดาๆ ที่ดูไม่ค่อยจะสนุกเท่าไหร่จนเกิดความรู้สึกว่าใส่เข้ามาเยอะเกินความจำเป็น เพราะพอใส่มาเยอะๆ แล้วมันดูเดิมๆ ซ้ำๆ เหมือนหนังวนไปวนมาไม่เดินหน้าไปไหนซะที ก็เลยทำให้เกิดความเบื่อขึ้นมาบ้างเล็กน้อย เชื่อว่าถ้าตัดฉากเหล่านี้ออกไปบ้างแล้วทำให้ความยาวขอหนังเหลือสัก 1 ชั่วโมง 45 นาที ก็น่าจะช่วยให้หนังกระชับและเข้มข้นได้มากขึ้นนะฮะ

ในส่วนของฉากคอนเสิร์ต ก็เหมือนภาคแรกฮะที่โปรโมทไว้ซะใหญ่โตตั้งแต่ก่อนหนังฉาย (ภาคนี้เป็นคอนเสิร์ตของวง Modern Dog ที่ก็ได้สมาชิกวงมาร่วมแสดงครบทั้งวงเช่นเคย) แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ได้มีอะไรให้ประทับใจเลยและไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับเนื้อเรื่องด้วย (พูดได้ว่าฉากนี้จะมีหรือไม่มีก็ได้)

สรุป >> ให้ไป 7.5 เต็ม 10 นะฮะ โดยรวมคือชอบมากกว่าภาคแรกฮะ บทดูลงตัวกว่าภาคแรกเยอะเลย

ฝากรีวิวเรื่องอื่นๆ ด้วยนะฮะ คลิกที่ลิ้งค์นี้ได้เลย