[รีวิว] DC’s Legends of Tomorrow รวมพลคนเหนือมนุษย์ปกป้องกาลเวลา [Series]

[Review] DC’s Legends of Tomorrow (รวมพลคนเหนือมนุษย์) [2016-2022]

Legends of Tomorrow (รวมพลคนเหนือมนุษย์) ทีวีซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนของ DC Comics และถือว่าเป็นภาค Spin-Off ของทีวีซีรีส์ดังเรื่อง Arrow และ the Flash ซึ่งเรียกว่าจักรวาล ArrowVers ที่ออกอากาศทางช่อง the CW ไปก่อนหน้านี้ โดยทีมพัฒนาคุณภาพอย่าง Greg Berlanti, Marc Guggenheim, Andrew Kreisberg และ Phil Klemmer

มีจำนวนทั้งหมด 7 Season สามารถรับชมได้แล้วทาง NETFLIX ครบทุกซีซั่น

เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
ทีวีซีรีส์ชุดนี้เป็นการนำเอาตัวละครฮีโร่ตัวรองจากซีรีส์เรื่อง Arrow และ the Flash มารวมทีมเฉพาะกิจในการทำภารกิจพิเศษ

โดยเริ่มต้นจาก Rip Hunter (รับบทโดย Arthur Darvill) นักเดินทางท่องเวลา ได้เดินทางจากอนาคตในปี 2166 ด้วยยาน Waverider มายังช่วงเวลาปี 2016 เพื่อรวบรวมกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง โดยมีเป้าหมายหลักในการกำจัด Vandal Savage (รับบทโดย Casper Crump) ตัวละครที่เคยปรากฎตัวครั้งแรกในซีรีส์ the Flash ก่อนที่จะกลายเป็นอาชญากรตัวร้ายที่เป็นตัวทำลายล้างความสงบสุขของโลกในช่วงเวลาปัจจุบันของ Rip Hunter

กลุ่มคนที่ Rip Hunter มารวบรวมเพื่อเป็นทีมโลกประกอบไปด้วย 3 ฮีโร่ตัวหลักประจำทีม ได้แก่
– Salah Lance / White Canary (รับบทโดย Caity Lotz) – น้องสาวของ Laurel Lance ตัวละครจากซีรีส์ Arrow
– Ray Palmer / Atom (รับบทโดย Brandon Routh) – เศรษฐีหนุ่มนักประดิฐ์แห่งเมือง Starling City เจ้าของ Palmer Technologies, Inc. อีก 1 ตัวละครจากซีรีส์ Arrow
– Dr. Martin Stein (รับบทโดย Victor Garber) และ Jefferson “Jax” Jackson (รับบทโดย Franz Drameh) / Firestorm – ชาย 2 คนผู้ที่สามารถรวมร่างกันเพื่อกลายเป็น Firestorm มนุษย์เพลิงที่มีพลังทำลายล้างสูง ตัวละครจากซีรีส์ the Flash

ร่วมด้วยตัวละครวายร้ายที่เป็นคู่หูจอมแสบจากซีรีส์ the Flash ที่จะต้องกลายมาเป็นผู้พิทักษ์คุณธรรมอย่างเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือ
– Mick Rory / Heat Wave (รับบทโดย Dominic Purcell) – จอมโจรผู้นิยมการใช้กำลังมากกว่าสมอง เจ้าของปืนที่สามารถพ่นไฟที่มีความร้อนสูง
– Leonard Snart / Captain Cold (รับบทโดย Wentworth Miller) – จอมโจรสมองเพชร เจ้าของปืนความเย็น ที่สามารถทำให้เป้าหมายกลายเป็นน้ำแข็งได้ในพริบตา

นอกจากนี้ ยังมีตัวละครอื่นๆ ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาร่วมทีม เลเจนด์ส ออฟ ทูมอร์โรว์ อีกหลายคน เช่น
– Carter Hall / Hawkman (รับบทโดย Falk Hentschel) – ตัวละครที่ปรากฎตัวครั้งแรกในซีรีส์ the Flash
– Kendra Saunders / Hawkgirl (รับบทโดย Ciara Renée) – ตัวละครที่ปรากฎตัวครั้งแรกในซีรีส์ the Flash
– Amaya Jiwe / Vixen (รับบทโดย Maisie Richardson-Sellers) – 1 ในสมาชิกของทีม Justice Society of America

และนอกจากการกลับมารวมทีมกันของการรวมกลุ่มของเหล่าฮีโร่ตัวรองจากทั้ง 2 ซีรีส์แล้วนั้น ยังมีเหล่าบอสตัวร้ายอีกหลายๆ ตัวที่จากซีรีส์ Arrow และ the Flash ที่จะกลับมามีบทบาทรวมทีมกันในชื่อ Legion of Doom อีกด้วย ได้แก่
– Damien Darhk (รับบทโดย Neal McDonough) – ตัวละครจากซีรีส์ Arrow
– Malcolm Merlyn (รับบทโดย John Barrowman) – ตัวละครจากซีรีส์ Arrow
– Eobard Thawne / Reverse Flash (รับบทโดย Matt Letscher) – ตัวละครจากซีรีส์ the Flash

และตามธรรมเนียมของจักรวาล ArrowVerse ที่จะต้องมี Crossover Event ตัวละครจากทั้ง 4 ซีรีส์เข้าด้วยกัน (Arrow, the Flash, Supergirl และ Legends of Tomorrow) โดยในซีรีส์เรื่องนี้ การ ครอสโอเวอร์ กันครั้งแรกเกิดขึ้นใน EP. 7 ของซีซั่น 2 ตอนที่ชื่อว่า Invasion (ซึ่งเป็น Crossover Event ครั้งที่ 3 ของจักรวาล ArrowVerse)

อีกทั้งตั้งแต่ช่วงซีซั่น 4 เป็นต้นไป ยังจะได้ John Constanstine ตัวละครจากซีรีส์ Constantine ที่รับบทโดย Matt Ryan (หลังจากที่ซีรีส์เดี่ยวของตัวเองที่ออกอากาศทางช่อง NBC ถูกยกเลิกโชว์ไป) มาร่วมทีมทำภารกิจป่วนอย่างเป็นทางอีกต่างหาก

ความรู้สึกหลังจากที่ได้ดู
ดูเหมือนในช่วงซีซั่นแรก เลเจนด์ส ออฟ ทูมอร์โรว์ จะหาทิศทางของตัวเองยังไม่เจอ เพราะบางช่วงก็เหมือนจะพยายามทำให้เป็นดราม่าหนักๆ ในแบบ Arrow แต่บางช่วงก็จะพยายามทำให้ดูสบายๆ เหมือนใน the Flash จึงกลับกลายเป็นว่าไปไม่สุดสักทาง ด้วยการดำเนินเรื่องที่เบาหวิว ทั้งๆ ที่ตัวเนื้อหามีอะไรให้เล่นได้เยอะ

แต่พอเริ่มเข้าซีซั่น 2 ทิศทางของตัวซีรีส์ก็เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น ความเข้มข้นของเนื้อเรื่องที่สอดแทรกด้วยมุกตลกๆ จากตัวละครหลายๆ ตัว ก็เริ่มลงตัวมากขึ้น โดยรวมจึงดูได้สนุกกว่าช่วงซีซั่นแรกอย่างเห็นได้ชัด

และที่สำคัญคือ ยิ่งดูยิ่งสนุกฮะ เป็นยาคลายเครียดได้อย่างดีเลยทีเดียว

สรุป >> ให้ไป 8 เต็ม 10 ฮะ เป็นคะแนนที่ให้ตั้งแต่ซีซั่น 2 เป็นต้นไปนะฮะ ส่วนถ้าเอาเฉพาะซีซั่น 1 ก็ให้แค่ 7 เต็ม 10 ฮะ

ท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ