Home Series Revolution การต่อสู้ดิ้นรนบนโลกที่แสนมืดมนไร้ซึ่งพลังงานไฟฟ้า

[รีวิว] Revolution การต่อสู้ดิ้นรนบนโลกที่แสนมืดมนไร้ซึ่งพลังงานไฟฟ้า [Series]

[Review] Revolution (ผ่าวิกฤตโลกมืด) [2012-2014]


Revolution (ผ่าวิกฤตโลกมืด) ภาพยนตร์ซีรีส์จากฝั่งอเมริกาแนว Post-Apocalyptic Sci-Fi ออกอากาศทางช่อง NBC อำนวยการผลิตโดย J.J Abrams จาก Bad Robot Productions และสร้างสรรค์ผลงานโดย Eric Kripke (ผู้ที่เคยฝากผลงานไว้ในซีรีส์ชุด Supernatural)

เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
ในปี 2012 ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นที่เรียกกันว่า The Blackout นั่นคือ เกิดเหตุไฟฟ้าดับทั่วโลกอย่างไม่ทราบสาเหตุ รวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ทุกอย่างไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้โลกกลับเข้าสู่สภาพกลียุคแทบจะไร้อารยธรรม เทคโนโลยีทั้งหมดไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป

15 ปีผ่านไป หลังจากสังคมโลกล่มสลาย คนที่ยังอยู่รอดต่างพยายามรวมกลุ่มและสร้างสังคมขึ้นใหม่ พร้อมกับการต่อสู้แย่งชิงดินแดนและทรัพยากรที่เหลืออยู่

วันหนึ่งในชุมชนเกษตรกรรมเล็กๆ แห่งหนึ่ง ชีวิตของ CharlotteCharlieMatheson (รับบทโดย Tracy Spiridakos) ต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล เมื่อทหารท้องถิ่นเข้ามาในหมู่บ้าน และได้สังหารพ่อของเธอพร้อมกับจับตัวน้องชายของเธอไป เธอต้องออกเดินทางเพื่อตามหา Mile Matheson (รับบทโดย Billy Burke) ลุงของเธอ เพื่อหาทางช่วยเหลือน้องชายของเธอจากกลุ่มทหารเหล่านั้น รวมทั้งร่วมกันค้นหาคำตอบของความลับที่ทำให้ไฟฟ้าหายไปจากโลก พร้อมกับหาทางแก้ไขให้พลังไฟฟ้านั้นกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง

อะไรคือสาเหตุของเหตุการณ์ในครั้งนั้น และมันมีทางแก้ไขได้หรือเปล่า ต้องไปติดตามกันดูในซีรีส์นะฮะ

ความคิดเห็นหลังจากดูจบ
ถึงแม้ซีรีส์จะได้ชื่อว่าควบคุมการผลิตโดย J.J Abrams ก็ตามที แต่ดูเหมือนว่าชื่อนี้ ก็ยังไม่สามารถนำพาให้ซีรีส์ชุดนี้เดินทางไปได้สวยอย่างที่ควรจะเป็น เพราะหลังจากที่ออกอากาศมาได้เพียง 2 ซีซั่น ซีรีส์ชุดนี้ก็ถูกทาง NBC สั่งตัดจบลง จึงทำให้เรื่องราวค้างเติ่งอย่างน่าเสียดายมากๆ

เพราะจะว่าไปแล้ว ธีมเรื่องของซีรีส์ชุดนี้ มีอะไรให้เล่นได้อีกเยอะ ดูได้สนุกนะ ขมวดปม และทิ้งปริศนาให้น่าติดตามอยู่เหมือนกัน แต่ไม่รู้เพราะสาเหตุใด การเล่าเรื่องจากทั้ง 2 ซีซั่นมันดูสะเปะสะปะ ดูออกทะเลไปแบบไม่น่าจะกลับเข้าฝั่งได้ง่ายๆ เลย โดยเฉพาะพอเข้าซีซั่น 2 ที่ดูเหมือนว่าธีมของเรื่องจะเปลี่ยนไปอย่างมาก

อย่างที่บอกไป ด้วยพล็อตเรื่องที่มีความน่าสนใจ บวกกับวิธีการนำเสนอในสไตล์แบบ J.J Abrams กลับไม่สามารถทำให้เรื่องราวมันเดินทางไปอย่างยิ่งใหญ่ได้แบบที่ซีรีส์ Lost เคยทำได้ ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นที่วิสัยทัศน์ของทีมสร้างหรือทีมเขียนบทหรือใครก็ไม่รู้ ที่ทำให้มันออกมาเละได้ถึงเพียงนี้ พูดง่ายๆ คือ เสียดายพล็อตเรื่องมาก

แต่หากดูแบบไม่คิดอะไร ซีรีส์ชุดนี้ ก็ยังให้ความบันเทิงได้ในระดับหนึ่งนะ ฉากแอ็คชั่นทำได้สนุกตื่นเต้นดี ใช้ดูฆ่าเวลาตอนที่ไม่รู้จะดูอะไรแล้วก็พอได้อยู่นะฮะ

ท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ

Exit mobile version