[รีวิว] Twilight Zone แดนสนธยา ที่จะพาทุกท่านไปพบกับความหฤหรรษ์ [Series]

[Review] The Twilight Zone (แดนสนธยา) [2019-Present]

The Twilight Zone (แดนสนธยา) ทีวีซีรีส์แนว Mystery Sci-Fi Thriller ของทางช่อง CBS All Access ที่ดัดแปลงมาจากฉบับทีวีซีรีส์ชื่อเรื่องเดียวกันของ Rod Serling ที่ออกฉายไปตั้งแต่เมื่อปี 1959 to 1964

สำหรับซีรีส์ฉบับปี 2019 นี้ ถูกพัฒนาโปรเจคโดย Simon Kinberg, Jordan Peele (ผู้กำกับภาพยนตร์ Get Out และ Us) และ Marco Ramirez

สามารถรับชมได้ทาง HBO Go

เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ (Season 1)
เดอะ ทไวไลซ์ โซน เป็นซีรีส์แบบจบในตอน ที่เดาทางค่อนข้างยากเรื่องหนึ่งเลย โดยใน Season 1 นี้จะมีจำนวน 10 ตอน ดังนี้

ตอนที่ 1 (Episode 1) “The Comedian”

เรื่องราวของ Samir Wassan (รับบทโดย Kumail Nanjiani) นักแสดงตลกเดี่ยวไมโครโฟน ที่กำลังย่ำแย่จากการแสดงเพราะไม่มีใครชื่นชมและขำไปกับมุกที่เขาแสดงเลย จนกระทั่งค่ำคืนหนึ่งหลังจบการแสดง ระหว่างเขาก็ได้พบกับ J.C. Wheeler (รับบทโดย Tracy Morgan) นักแสดงตลกเดี่ยวไมโครโฟนในตำนานที่เป็นเหมือนไอดอลของเขา J.C. ได้แนะนำให้เขาเลิกใช้มุกการเมืองแล้วหันมาใช้มุกที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในกิจวัตรของเขาเข้าไปแทน

หลังจากที่เขาได้ลองทำตามคำแนะนำของ J.C. ปรากฎว่า เขาได้รับการตอบสนองอย่างท่วมท้น เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูได้ตลอดการแสดง เขารู้สึกยินดีปรีดาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่รู้มาก่อนก็คือ ทุกครั้งที่เขาเล่าและเอ่ยถึงชื่อใครในการแสดง ตัวตนของสิ่งนั้นๆ จะถูกลบหายไปทันที ราวกับว่าสิ่งนั้นๆ ไม่เคยมีตัวตนบนโลกใบนี้มาก่อน มีเพียงเขาเท่านั้นที่ยังคงจำถึงสิ่งเหล่านั้นได้

ซึ่งของบางสิ่งหรือคนบางคนที่หายไป ก็จะส่งผลกระทบผู้คนที่เคยมีปฏิสัมพันธ์ด้วย บางคนมีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป

หลังจากที่เขารับรู้ถึงพลังนี้ เขาจึงนำมาใช้ทุกครั้งเพื่อแลกกับชื่อเสียงที่เขาต้องการ จนกระทั่งเหตุการณ์เริ่มเลวร้ายลง เขาจะทำยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

---

ตอนที่ 2 (Episode 2) “Nightmare at 30,000 Feet”

เรื่องราวของ Justin Sanderson (รับบทโดย Adam Scott) นักข่าวสายสืบสวนที่กำลังเดินทางโดยเครื่องบินของสายการบิน Northern Gold Star Airlines เที่ยวบิน 1015 หลังจากที่เขาขึ้นเครื่องบินเรียบร้อย เขาได้พบกับ Podcast เครื่องหนึ่งวางอยู่ตรงที่นั่งของเขา ด้วยความที่ระยะเวลาในการเดินทางของไฟลท์บินนี้ค่อนข้างยาวนาน เขาจึงได้เปิดเครื่อง Podcast นี้ฟัง

เนื้อหาที่เขาได้จาก Podcast นี้ได้เล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบิน 1015 นี้ ซึ่งตอนแรกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นที่ตรงกับสิ่งที่พูดถึงอยู่ใน Podcast เครื่องนั้น

จัสติน จึงเริ่มตื่นตระหนกและหวาดกลัว เนื่องจากรายละเอียดต่างๆ ที่ Podcast นั้นรายงานออกมาจะมีความรุนแรงมากขึ้นจนกระทั่งสุดท้ายจะเกิดอุบัติเหตุทำให้เครื่องบินตก แต่ที่สำคัญที่สุดคือ เสียงใน Podcast นั้น ได้เอ่ยชื่อของเขาออกมาด้วย

จัสติน จะทำอย่างไรทำกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

---

ตอนที่ 3 (Episode 3) “Replay”

เรื่องราวของ Nina Harrison (รับบทโดย Sanaa Lathan) ที่กำลังขับรถเพื่อเดินทางไปส่ง Dorian Harrison (รับบทโดย Damson Idris) ลูกชายของเธอที่มหาวิทยาลัย

เธอได้นำกล้องวิดีโอเก่าซึ่งเป็นของพ่อเธอติดตัวมาด้วยเพื่อถ่ายเหตุการณ์ต่างๆ ระหว่างการเดินทาง

หลังจากหยุดพักที่ร้านอาหารข้างทางเรียบร้อย พวกเขาก็ออกเดินทางต่อ แต่ไม่นานนักพวกเขาก็ถูกเรียกให้หยุดรถโดยนายตำรวจคนหนึ่ง จนกระทั่งเกิดการกระทบกระทั่งกับนายตำรวจคนนั้น แต่แล้ว นีนา ก็เผอิญไปกดถูกปุ่ม Rewind บนกล้องวิดีโอเข้า ซึ่งทำให้เหตุการณ์ทั้งหมดย้อนกลับไปยังจุดที่วิดีโอได้บันทึก

มีเพียง นีน่า คนเดียวเท่านั้นที่รับรู้ได้ถึงเหตุการณ์ย้อนกลับเหล่านี้ เธอจึงพยายามหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุกาณ์ปะทะกับนายตำรวจคนนั้นให้ได้ โดยการกดปุ่ม Rewind ทุกครั้งที่กำลังจะเกิดเรื่องเลวร้าย

สุดท้ายเรื่องราวจะเป็นอย่างไร

---

ตอนที่ 4 (Episode 4) “The Traveler”

ณ เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในอลาสก้า สถานีตำรวจประจำเมืองแห่งนี้จะมีธรรมเนียมพิเศษอย่างหนึ่งที่ ผู้กอง Lane Pendleton (รับบทโดย Greg Kinnear) หัวหน้าตำรวจของสถานีตำรวจแห่งนี้ได้ตั้งขึ้น นั่นคือ ในทุกค่ำคืนปาร์ตี้วันคริสมาสอีฟ ผู้กองแพนเดินตัน จะมีการประกาศอภัยโทษให้กับผู้ต้องขัง 1 คน เป็นประจำทุกปี

ซึ่งในค่ำคืนนี้ Yuka Mongoyak (รับบทโดย Marika Sila) จ่าตำรวจหญิงของสถานีตำรวจแห่งนี้ได้จับกุมตัว Jack (รับบทโดย Patrick Gallagher) พี่ชายของเธอในข้อหาเมาสุรามาฝากขังในห้องขังที่สถานีตำรวจ เพื่อรอประกาศการอภัยโทษ

แต่เมื่อถึงเวลา กลับมีชายคนหนึ่งปรากฎตัวในห้องขังซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเขาเข้ามาในห้องขังนี้ได้อย่างไร ชายคนนั้นเรียกตัวเองว่า A Traveler (รับบทโดย Steven Yeun ผู้ที่โด่งดังมาจากบท Glenn ในซีรีส์ชุด The Walking Dead)

เขาอ้างว่าตัวเองเป็นนักเดินทาง ซึ่งเดินทางไปมาแล้วมาหลากหลายสถานที่ และที่เมืองแห่งนี้ ก็เป็นสถานที่หนึ่งที่เขาต้องมาให้ได้เนื่องจากความโด่งดังของธรรมเนีบมการอภัยโทษของสถานีตำรวจแห่งนี้

ท่ามกลางความสงสัยของ ยูกะ ที่มีต่อชายคนนี้ เธอพยายามหาข้อมูลและหลักฐานยืนยันตัวตนของชายคนนี้ แต่เธอกลับไม่พบข้อมูลอะไรเลย ในขณะเดียวกันกับที่ ผู้กองแพนเดินตัน ก็บังเอิญได้ไปเห็นเสาอากาศบนหัวของชายคนนี้ จนกระทั่งเกิดความไม่ไว้วางใจขึ้น

A Traveler จึงเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ร้ายๆ ที่คนในงานปาร์ตี้ได้เคยทำเอาไว้ จนกระทั่งเกิดเหตุวุ่นวายไปหมด

ชายคนนี้คือใคร

---

ตอนที่ 5 (Episode 5) “The Wunderkind”

เรื่องราวของ Raff Hanks (รับบทโดย John Cho) ผู้จัดการแคมเปญหาเสียงสำหรับผู้ลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังล้มเหลวจากการที่ทำให้ประธานาธิบดีคนปัจุจบันแพ้คะแนนเสียงในการเลือกตั้งสมัยหน้า

ในระหว่างที่เขากำลังหมดหวังในเส้นทางอาชีพนี้ เขาบังเอิญได้เห็นข่าวของ Oliver Foley (รับบทโดย Jacob Tremblay) เด็กชายอายุ 11 ปีคนหนึ่งที่กำลังโด่งดังจากคลิปในยูทูปที่มีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก

ราฟ จึงเล็งเห็นโอกาสในการจะกลับมารุ่งเรืองในสายอาชีพนี้อีกครั้ง ด้วยการติดต่อขอเข้าไปเป็นผู้จัดการแคมเปญให้กับ โอลิเวอร์ เพื่อผลักดันให้ โอลิเวอร์ เด็กชายอายุ 11 ปีก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป

เส้นทางชีวิตของ ราฟ และ โอลิเวอร์ จะเป็นอย่างไร

ตอนที่ 6 (Episode 6) “Six Degrees of Freedom”

เรื่องราวของนักบินอวกาศของยานอวกาศ Bradbury Spacecraft ที่กำลังเตรียมตัวเดินทางไปยังดาวอังคาร เพื่อสำรวจและหาทางตั้งอาณานิคมแห่งใหม่บนดาวอังคาร

แต่ในระหว่างที่กำลังจะปล่อยยานอวกาศ พวกเขาได้รับการสื่อสารจากสถานีภาคพื้นดินว่า เกาหลีเหนือกำลังยิงจรวจนิวเคลียร์มาโจมตีสหรัฐฯ ให้ทุกคนเร่งทำการอพยพไปยังที่ปลอดภัย

แต่ทุกคนก็ตัดสินใจที่จะปฏิบัติภารกิจต่อไป ด้วยการควบคุมยานอวกาศด้วยระบบแมนนวล หลังจากที่ยานอวกาศได้ทะยานขึ้นสู่อวกาศเรียบร้อยแล้ว ลูกเรือบางคนพยายามที่จะติดต่อกลับมายังโลก แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบกลับใดๆ เลย ทุกคนจึงเชื่อว่า โลกคงสูญสิ้นไปแล้วจากสงครามนิวเคลียร์ที่เกิดขึ้น

ระยะเวลา 200 กว่าวันที่เดินทางจากโลกไปยังดาวอังคาร กับบรรยากาศในพื้นที่ปิด ผสมกับความกังวลถึงชะตากรรมของคนที่รักที่รอคอยอยู่บนโลกว่าจะยังคงมีชีวิตรอดอยู่หรือไม่ ทำให้ความกดดันในจิตใจของแต่ละคนเริ่มถาโถมเข้ามา

จนกระทั่ง Jerry Pierson (รับบทโดย Jefferson White) หนึ่งในลูกเรือได้พบกับสิ่งผิดปรกติอะไรบางอย่าง

สิ่งผิดปรกตินั้นคืออะไร

---

ตอนที่ 7 (Episode 7) “Not All Men”

เรื่องราวของ Annie Miller (รับบทโดย Taissa Farmiga) พนักงานสาวสวยในบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ได้ตอบรับคำเชิญจาก Dylan (รับบทโดย Luke Kirby) เพื่อนร่วมงานของเธอ ให้ไปรับประทานอาหารค่ำและชื่นชมฝนดาวตกที่บ้านของเขา

ในค่ำคืนนั้น มีดาวตกเป็นจำนวนมากได้หลุดรอดตกลงมายังพื้นโลก และแล้วความเลวร้ายก็ได้เริ่มต้นขึ้น โดยผู้ชายที่ไปสัมผัสกับกลุ่มหินดาวตกเหล่านั้นจะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เริ่มจากหงุดหงิดง่าย โมโหร้าย จนในที่สุดก็จึงจุดที่กลายเป็นความบ้าคลั่ง ไล่ทำร้ายกันและกันจนเกิดความวุ่นวายไปทั่วทั้งเมือง

แอนนี่ จะรอดพ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้หรือไม่

---

ตอนที่ 8 (Episode 8) “Point of Origin”

เรื่องราวของ Eve Martin (รับบทโดย Ginnifer Goodwin) หญิงสาวที่อยู่ในครอบครัวที่ฐานะดี มีความสุขกับสามีที่ดีและลูกสาวฝาแฝด

จนกระทั่งวันหนึ่งในขณะที่เธอกำลังเตรียมงาน สำหรับจัดงานเลี้ยงสมาคมผู้ปกครองนั้น เธอได้ถูกลักพาตัวไปโดยกลุ่มชายปริศนากลุ่มหนึ่ง

เมื่อเธอฟื้นขึ้นมา เธอก็พบว่าตัวเธอเองนั้น ถูกควบคุมตัวอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง โดยที่เธอถูกกล่าวหาว่า เป็นบุคคลจากอีกมิติหนึ่ง ซึ่งหลบหนีเข้ามาอย่างไม่ถูกต้อง

จริงหรือไม่กับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเธอจะทำอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

---

ตอนที่ 9 (Episode 9) “The Blue Scorpion”

เรื่องราวของ ศาสตราจารย์ Jeff Storck (รับบทโดย Christopher O’Dowd) ซึ่งกำลังมีปัญหาเรื่องการถูกฟ้องหย่าจากภรรยาของเขา วันหนึ่งเมื่อเขากลับถึงบ้านหลังจากเลิกงาน เขาได้พบศพพ่อของเขาที่ยิงตัวตายโดยปืนกระบอกหนึ่งอยู่ภายในบ้าน

ในขณะความซึมเศร้าในจิตใจเริ่มถาโถมเข้ามา วันหนึ่งทางตำรวจได้ส่งปืนที่พ่อของเขาใช้ยิงตัวตายกลับมา ซึ่งปืนกระบอกนี้มีลักษณะพิเศษคือที่ด้ามปืนมีรูปแมงป่องสีน้ำเงินอยู่ พร้อมกับลูกกระสุนนัดหนึ่งที่มีชื่อของเขาสลักเอาไว้อยู่

ตั้งแต่วันนั้น ความไม่ปรกติในจิตใจของ เจฟฟ์ ก็เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น พร้อมการปรากฎตัวของคนรอบตัวเขาที่มีชื่อว่า เจฟฟ์ เกือบทุกคน

---

ตอนที่ 10 (Episode 10) “Blurryman”

เรื่อวราวของ Sophie Gelson (รับบทโดย Zazie Beetz) 1 ในทีมเขียนบทของซีรีส์ชุดนี้ ที่ต้องเร่งแก้ไขบทบรรยายเปิดตอน ตามที่ Jordan Peel (ซึ่งเป็นทั้งผู้บรรยายเปิดตอนและเป็น 1 ในทีมพัฒนาโปรเจคซีรีส์ชุดนี้) สั่งให้แก้ไข

ในระหว่างที่เธอกำลังครุ่นคิดกับการแก้ไขบทบรรยายอยู่นั้น ทีมงานฝ่ายตัดต่อคนหนึ่งได้ชี้เห็นเธอเห็นว่า ตลอดทั้ง 9 ตอนที่ผ่านมาของซีรีส์ชุดนี้ มีเงาปริศนาร่างหนึ่งคอยแฝงอยู่ตามฉากต่างๆ ของทั้ง 9 ตอน ซึ่งเงาปริศนานั้นคือใคร ก็ไม่มีใครรู้เรื่อง

จนกระทั่ง โซฟี่ ได้พบกับเงาปริศนานั้นด้วยตัวเอง เงานั้นคอยไล่ตามเธอไปในทุกที่ๆ ภายในบริเวณสตูโอที่ใช้ถ่ายซีรีส์ชุดนี้

และแล้วสุดท้ายเธอก็ได้รับรู้ความจริงที่ว่า…

---

ความคิดเห็นหลังจากดูจบ

พูดยากเลยฮะ บางตอนก็สนุก บางตอนก็เฉยๆ บางตอนก็เดินเรื่องเอื่อยๆ อืดๆ บางตอนก็เดินเรื่องได้น่าติดตามดี

สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของ Jordan Peele ก็คือ การแอบเสียดสี จิกกัดและประชดประชันประเด็นต่างๆ ทางสังคมได้อย่างเข้มข้น ซึ่งประเด็นต่างๆ ที่ว่านั้น ก็จะถูกสอดแทรกอยู่ในทุกๆ ตอนของซีรีส์ชุดนี้

สรุป >> ให้ 6.5 เต็ม 10 ละกันฮะ เพราะตลอดทั้งซีซั่นมีหลายหลากแนว สนุกบ้างน่าเบื่อบ้าง ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเลยฮะ ว่าจะชอบตอนไหนแนวไหน

ท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ