[รีวิว] SLR (กล้อง ติด ตาย) กับความพยายามที่จะฉีกแนว แต่ไปไม่ถึง [Movie]

[Review] SLR (กล้อง ติด ตาย) [2022]

SLR (กล้อง ติด ตาย) ภาพยนตร์แนว Horror จากค่าย M Pictures ผลงานการกำกับของ เลิศศิริ บุญมี และ วุฒิชัย วงศ์นพดล ภายใต้การโปรดิวซ์ของ ก้องเกียรติ โขมศิริ

นำแสดงโดย
กรภัทร์ เกิดพันธุ์ รับบทเป็น แดน
เฌอปราง อารีย์กุล รับบทเป็น น้ำ
ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์ รับบทเป็น เกรท
นพพันธ์ บุญใหญ่ รับบทเป็น อาจารย์เอม

รับชมได้ทาง Netflix

เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวของ แดน นักศึกษาหนุ่มที่กำลังมุ่งมั่นทำโปรเจคธีสิสจบการศึกษาด้านการถ่ายภาพ ด้วยความที่เขาต้องการที่จะสร้างโปรเจคที่สมบูรณ์ เขาจึงเลือก อาจารย์เอม อาจารย์ที่มีชื่อเสียงในวงการถ่ายภาพให้มาเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาโปรเจคธีสิสของเขา

แดน เป็นเด็กหนุ่มที่มีฝีมือในการถ่ายภาพ และมักจะได้รับเสียงชื่นชมจากลูกค้าและผู้ร่วมงานอยู่เสมอ แต่ไม่ว่าเขาจะทุ่มเทถ่ายภาพขนาดไหน งานของเขาก็ไม่เคยดีในสายตาของ อาจารย์เอม เลย นั่นจึงทำให้เขาอาจจะพลาดโอกาสที่จะได้รับทุนไปศึกษาต่อที่นิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมกับเพื่อนสนิทและคนรักอย่าง น้ำ และ เกรซ ที่ได้รับการตอบรับเข้าศึกษาต่อจากมหาวิทยาลัยที่นิวยอร์คแล้ว

วันหนึ่ง อาจารย์เอ็ม จึงได้มอบกล้อง SLR ตัวหนึ่งที่เขาเคยใช้มาให้ แดน เพื่อเป็นแรงผลักดันในการสร้างสรรค์งานที่ดีออกมาให้ได้

แต่แล้วเรื่องราวสุดสยองก็เกิดขึ้น เมื่อบุคคลที่อยู่ในภาพที่ แดน ใช้กล้องตัวนั้นถ่าย เริ่มทะยอยตายอย่างมีปริศนาไปทีละคน

คนที่ตายเหล่านั้นตายเพราะถูกถ่ายด้วยกล้องตัวนั้นจริงหรือไม่, ปริศนาของกล้องตัวนั้นคืออะไร ไปร่วมหาคำตอบกันนะฮะ

ความรู้สึกหลังดูจบ
ผิดหวังอย่างแรงเลยฮะ หนังเดินเรื่องได้เนิบนาบและน่าเบื่อมาก บทหนังเละเทะมาก คือแทนที่หนังจะไปให้ความสำคัญกับผลกระทบที่เกิดจากการกระทำของตัวละครเอกและการสืบหาต้นตอรวมถึงวิธีการแก้ไขปัญหา แต่หนังดันไปเสียเวลากับการเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของคน 3 คนมากจนเกินไป (แต่ก็เล่าแค่เพียงผิวเผิน งงมั้ยล่ะ ฮ่าๆๆๆ) ทั้งๆ ที่สามารถเล่าให้กระชับกว่านี้ได้

หนังมีความพยายามที่จะฉีกแนวจากหนังผีทั่วๆ ไป โดยหันมาเล่นกับประเด็นที่เกี่ยวกับปีศาจในตำนาน (คล้ายๆ กับพลอตที่หนังฝรั่งชอบใช้กัน) ซึ่งเมื่อจับเอาผีในแบบความเชื่อของไทยไปผสมเข้ากับปีศาจในแบบความเชื่อของฝรั่ง แล้วคนเขียนบทกับผู้กำกับไม่เก๋าพอ จึงไม่สามารถที่จะเขย่าส่วนผสมทั้ง 2 สิ่งนี้ให้กลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกันได้ ผลลัพธ์ที่ได้จึงกลายเป็นว่าช่วงครึ่งแรกกับครึ่งหลังของหนัง เหมือนหนังคนละเรื่องกันเลย ยิ่งช่วงไคลแม็กซ์ตอนท้ายเรื่องนี่ยิ่ง “อิหยังวะ” มาก

ไหนจะเรื่องของ “ตัวช่วย” อีก ซึ่งในหนังฝรั่ง ส่วนใหญ่ตัวละครเอกจะได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับที่มาที่ไปของตำนานปีศาจ, วิธีการแก้คำสาป รวมถึงวิธีรับมือกับปีศาจจากใครสักคนที่ดูมีความน่าเชื่อถือมากๆ แต่กับเรื่องนี้ “ตัวช่วย” (ไม่ขอบอกละกันนะฮะว่าเป็นใคร ไม่อยากจะสปอยมาก) กลับดูไม่มีความน่าเชื่อถือเลย และของที่เอามาใช้ในการป้องกันหรือใช้ปราบปีศาจ ก็เหมือนของตามตลาดนัดคลองถมอีก ดูไปก็ได้แต่ส่ายหัวพร้อมหัวเราะ หึหึ ไปเบาๆ

CG ของปีศาจท้ายเรื่องคือวายป่วงมากฮะ พูดไม่ออกเลย ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดดี

สรุป >> ให้ไป 4 เต็ม 10 ละกันฮะ กับเป็นหนังที่ไม่มีอะไรน่าจดจำเลย ชวนง่วงมาก และน่าเบื่อสุดๆ ความพยายามในการจะฉีกแนวจากหนังผีเดิมๆ ก็ยังทำได้ไม่ถึง

ท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ