[รีวิว] Doom Patrol ซีรีส์เรื่องที่ 2 ของจักรวาล DC Universe [Series]

[Review] Doom Patrol [2019 – Present]

Doom Patrol ทีวีซีรีส์แนว Superhero เรื่องที่ 2 ของค่าย DC Universe และเป็น Spin-Off ของซีรีส์เรื่อง Titans ที่ออกอากาศไปก่อนหน้านี้ด้วย โดยเนื้อหาดัดแปลงมาจากคอมิกส์ชื่อเรื่องเดียวกันของ DC Comics

ซึ่งก่อนที่ Doom Patrol จะกลายเป็นโปรเจคซีรีส์เดี่ยวของตัวเองนั้น สมาชิกของทีมได้ไปปรากฎตัวเป็นครั้งแรกในซีรีส์เรื่อง Titans ช่วงตอนที่ 4 ของ Season 1 และในที่สุดตัวละคร Beast Boy ซึ่งเคยเป็น 1 ในสมาชิกของทีมก็ย้ายไปอยู่ในซีรีส์ Titans แบบเต็มตัวในที่สุด

ซีรีส์เรื่องนี้พัฒนาโปรเจคโดย Jeremy Carver (1 ในทีมที่ดูแลโปรเจคซีรีส์เรื่อง Supernatural)

นำแสดงโดย Timothy Dalton (อดีตนักแสดงที่เคยรับบท เจมส์ บอนด์ สายลับ 007), Brendon Fraser (ผู้โด่งดังจากบทนำในไตรภาค The Mummy), Diane Guerrero, Aprill Bowlby, Joivan Wade และ Matt Bomer

ปัจจุบันมีถึง Season 4 นะฮะ รับชมได้ทาง HBO Go


เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวของคนกลุ่มหนึ่งที่เคยผ่านประสบการณ์ชีวิตอันพิสดารมา จนไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตอยู่ในโลกปรกติแบบมนุษย์ธรรมดาได้ พวกเขาได้รับการช่วยเหลือจาก Niles Caulder หรือที่เรียกว่า The Chief (รับบทโดย Timothy Dalton) นายแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ที่พาตัวคนเหล่านั้นมาดูแลและเยียวยาทางด้านจิตใจที่คฤหาสน์ของเขา รวมถึงการช่วยฝึกฝนให้คนเหล่านี้สามารถยอมรับและรับมือกับสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ในปัจุจบัน

วันหนึ่งด้วยความดื้อรั้นของสมาชิกในกลุ่มที่ถูก The Chief ห้ามไม่ให้เปิดเผยตัวตนในที่สาธารณะ จนทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายในเมืองและความลับเรื่องการมีตัวตนของพวกเขาจึงถูกเปิดเผยออกมา

เรื่องรู้ถึง Eric Morden หรือที่เรียกว่า Mr. Nobody (รับบทโดย Alan Tudyk) ผู้ที่ยอมทุ่มเทเงินทองให้กับนักวิทยาศาสตร์ฝ่ายนาซีในช่วงปี 2491 เพื่อใช้เทคโนโลยีในการเปลี่ยนแปลงตัวเขาให้กลายเป็นผู้ที่มีพลังเหนือมนุษย์ และคอยตามหา The Chief มาเป็นเวลานาน จนในที่สุดเขาก็ได้พบกับ The Chief และได้ลักพาตัวไปยังมิติพิเศษ

เหล่าสมาชิกที่อยู่ในความดูแลของ The Chief จึงต้องร่วมมือกันออกตามหาและช่วยเหลือเขากลับมาให้ได้ แม้ว่าจะมีบางคนที่ไม่อยากจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยก็ตาม

สมาชิกในทีมประกอบไปด้วย
Cliff Steel (รับบท/ให้เสียงพากย์โดย Brendon Fraser) นักแข่งรถ NASCAR มืออาชีพผู้โด่งดังในยุค 80 ฝีมือดี อีโก้สูง วันหนึ่งเขาได้เกิอุบัติเหตุสุดสยองจนทำให้เขาเหลือแต่เพียงสมองเท่านั้นที่ยังใช้งานได้ (ร่างกายเหลกเหลว) The Chief จึงตัดสินใจนำสมองของเขาไปใส่ไว้ในหุ่นกระป๋องแทนเพื่อรักษาชีวิตของเขาไว้

Rita Farr (รับบทโดย April Bowlby) ราชินีแห่งวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูดยุค 50 ผู้ที่ได้รับอุบติเหตุระหว่างการถ่ายทำหนัง โดยเธอได้ไปสัมผัสกับก๊าซพิษปริศนาบางอย่างในแม่น้ำ ซึ่งมันได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างร่างกายเธอไปตลอดกาล เมื่อใดที่เธอไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของเธอได้ ร่างกายของเธอจะค่อยๆ กลายสภาพเป็นเมือกเหลว (สไลม์) ที่มีลักษณะอัปลักษณ์จนทำให้เธอต้องปลีกตัวออกจากสังคม

Larry Trainer (รับบทโดย Matt Bomer) นักบินหนุ่มไฟแรงแห่งกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาในยุค 60 เขาติดโผในรายชื่อนักบินสำรวจดาวอังคาร เขามีชีวิตครอบครัวที่ดี มีศรีภรรยาและลูกๆ ที่น่ารัก แต่เขาก็มีความลับส่วนตัวที่ไม่อาจเปิดเผยได้ วันหนึ่งในขณะที่เขากำลังทดสอบการบินด้วยจรวด X-15 อยู่นั้น ในจังหวะที่จรวดบินขึ้นสู่ระดับชั้นบรรยากาศของโลก เขาได้สัมผัสเข้ากับรังสีคอสมิกปริศนาที่พุ่งเขามาหาเขา ซึ่งส่งผลให้จรวดหยุดการทำงานและร่วงหล่นลงสู่พื้นโลกจนเกิดระเบิดอย่างรุนแรง ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะรอดชีวิตออกมาได้ แต่เขากลับเดินออกมาจากซากจรวดนั้นราวกับปาฏิหารย์ พร้อมไฟที่กำลังลุกไหม้ท่วมตัวเขาจนเป็นแผลฉกรรจ์  พร้อมกับรังสีคอสมิกดังกล่าวได้ก่อตัวเป็นก้อนพลังงานและอาศัยอยู่ในร่างของเขาตั้งแต่นั้นมา

Jane (รับบทโดย Diane Guerrero) 1 ในบุคลิกหลักของ Kay Challis หญิงสาวที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตอันบอบช้ำในจิตใจมาตั้งแต่ช่วงวัยเด็กจนเธอได้สร้างตัวตนใหม่ที่แตกต่างกันขึ้นมาถึง 64 บุคลิกภาพ และแต่ละบุคลิกภาพของเธอก็มีพลังพิเศษกันไปจากการถูกทดลองครั้งแล้วครั้งเล่า

VictorVicStone (รับบทโดย Joivan Wade) เด็กหนุ่มนักกีฬาที่ได้รับการผ่าตัดดัดแปลงเป็นครึ่งคนครึ่งไซบอร์กโดยพ่อของเขา ซึ่งเป็นวิศวกรเครื่องกลเนื่องจากเขาได้ประสบอุบัติเหตุจนร่างกายเสียหายอย่างหนัก และแม่ของเขาต้องตายในเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วย และแม้ว่า วิค จะไม่ได้อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ของ ไนลส์ เหมือนสมาชิกคนอื่นๆ แต่เนื่องด้วยความผูกพันกับ ไนลส์ ตั้งแต่วัยเด็ก (พ่อของเขากับ ไนลส์ เป็นเพื่อนกัน) เมื่อเขารู้ข่าวการหายตัวไปอย่างลึกลับของ ไนลส์ เขาจึงพยายามกระตุ้นคนอื่นๆ ให้ร่วมกันออกตามหา


ความคิดเห็นหลังดูจบซีซั่นแรก
เป็นซีรีส์จากค่าย DC อีกเรื่องหนึ่งที่มีความเป็นซีรีส์ดราม่ามากกว่าแอ็คชั่นอย่างเห็นได้ชัด ทิศทางของเรื่องก็ดูจะแตกต่างจากซีรีส์แนวซูเปอร์ฮีโร่เรื่องอื่นๆ อยู่พอสมควร เพราะตลอดทั้งซีซั่น ดูเหมือนจะพุ่งไปที่ปมปัญหาในจิตใจและเรียนรู้การควบคุมพลังของตัวละครแต่ละตัวซะมากกว่าที่จะเน้นไปที่ฉากแอ็คชั่น เราจึงจะไม่ได้เห็นการทำตัวเป็นฮีโร่ออกมาต่อสู้กับตัวร้ายมากนัก

นอกจากนี้เรายังจะได้เห็นการเล่นกับ Break The 4th Wall ของตัวละคร Mr. Nobody อีกด้วย

การดำเนินเรื่องก็ไปแบบเรื่อยๆ มีจุดที่พีคๆ อยู่บ้างเป็นประปราย แต่ในความเรื่อยๆ นั้น ก็มีเสน่ห์อะไรบางอย่างที่ชวนให้น่าติดตาม และดูได้สนุกในระดับหนึ่ง

Doom Patrol

สรุป >> ให้ 7 เต็ม 10 นะฮะ สำหรับซีรีส์ชุดนี้ที่แม้ว่าช่วงต้นจะเปิดเรื่องมาดี พลอตเรื่องน่าสนใจและน่าค้นหา แต่ด้วยความที่การดำเนินเรื่องโดยรวมค่อนข้างที่จะอืดๆ ยืดๆ เนือยๆ จนบางช่วงก็ทำให้น่าเบื่อและเกือบจะหลับอยู่เหมือนกันฮะ

สุดท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ