[รีวิว] A Quiet Place การต่อสู้เอาชีวิตรอดในโลกแห่งความเงียบ [Movie]

[Review] A Quiet Place (ดินแดนไร้เสียง) [2018]

A Quiet Place (ดินแดนไร้เสียง) ภาพยนตร์แนว Post-Apocalyptic Horror จากการเขียนบทของ Bryan Woods และ Scott Beck

กำกับโดย John Krasinski

นำแสดงโดย
John Krasinski รับบทเป็น Lee Abbott (จากภาพยนตร์เรื่อง 13 Hours และ The Hollars)
Emily Blunt (จากภาพยนตร์เรื่อง The Devil Wears Prada, Sicario และ Edge of Tomorrow) รับบทเป็น Evelyn Abbott
Millicent Simmonds (จากภาพยนตร์เรื่อง Wonderstruck) รับบทเป็น Regan Abbott
Noah Jupe (จากภาพยนตร์เรื่อง The Man with the Iron Heart และ Holmes & Watson) รับบทเป็น Marcus Abbott

รับชมได้ทาง Netflix

เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวกล่าวถึงเหตุการณ์ในช่วงปี 2020 ซึ่งเป็นเวลากว่า 3 เดือนหลังจากที่ประชากรมนุษย์และสิ่งมีชีวิตต่างๆ บนโลกถูกกำจัดโดยมนุษย์ต่างดาวที่ออกล่าเหยื่อจากการฟังเสียง ดังนั้นมนุษย์ที่ยังคงเหลือรอด จึงต้องอาศัยอยู่ด้วยความเงียบ เพราะแม้เพียงแค่เสียงกระซิบก็อาจจะถูกมนุษย์ต่างดาวนั้นตรวจจับและเข้าจู่โจมได้

ครอบครัว Abbott อันประกอบไปด้วย Lee Abbott (รับบทโดย John Krasinski), Evelyn Abbott (รับบทโดย Emily Blunt), Regan Abbott (รับบทโดย Millicent Simmonds) และ Marcus Abbott (รับบทโดย Noah Jupe) ที่สูญเสีย Beau Abbott (รับบทโดย Cade Woodward) ลูกชาย/น้องชาย วัย 4 ขวบไปจากการถูกมนุษย์ต่างดาวจู่โจม กลายเป็นช่องว่างในจิตใจของแต่ละคนที่ต่างก็โทษตัวเองและแบกรับความรู้สึกผิดจากการสูญเสียในครั้งนี้เอาไว้ในใจ

ผ่านไปปีกว่า ตอนนี้ เอฟเวลลิน ได้ตั้งท้องอีกครั้งและใกล้คลอดเต็มทีแล้ว ทั้ง เอฟเวลลิน และ ลี ต่างได้เตรียมการรับมือกับปัญหานี้เอาไว้อย่างเต็มที่ ในขณะที่ ลี เองก็พยายามหาทางติดต่อกับโลกภายนอกผ่านวิทยุรหัสมอร์ส แต่ก็ไร้วี่แววใดๆ

จนในที่สุดก็ถึงวันกำหนดคลอดของ เอฟเวลลิน พร้อมกับการบุกเข้าโจมตีของมนุษย์ต่างดาว เนื่องจากเธอเผลอทำเสียงดังออกไป จนมนุษย์ต่างดาวสามารถตรวจจับเสียงได้

ครอบครัว แอ็บบอต์ท จะรอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้หรือไม่ ต้องลุ้นกันเองนะฮะ

ความคิดเห็นหลังดูจบ
หนังให้ความรู้สึกที่ก้ำกึ่งระหว่างความสนุกกับความน่าเบื่อ เพราะในเรื่องของความสนุก ตื่นเต้นและลุ้นระทึก นั้นถูกแบ่งออกเป็น 3 ช่วงใหญ่ๆ คือตอนต้นเรื่องประมาณ 10 นาทีแรก ช่วงกลางเรื่อง และไคลแมกซ์ในช่วงท้าย แต่ในระหว่างทางนั้น หนังเดินเรื่องได้ค่อนข้างเอื่อยๆ ไปหน่อย ประกอบกับที่ตัวละครต้องอยู่ท่ามกลางความเงียบ จึงยิ่งทำให้เราต้องใช้สมาธิในการดูสูงกว่าปรกติ และนั่นเองที่ทำให้กลายเป็นความน่าเบื่อขึ้นมาซะเฉยๆ ซะงั้น

หนังไม่ได้บอกถึงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ตั้งแต่ที่เริ่มถูกมนุษย์ต่างดาวบุกมาโจมตีอย่างตรงไปตรงมา แต่เป็นการบอกเล่าผ่านภาพข่าวต่างๆ ที่แทรกเข้ามาระหว่างทาง ซึ่งมันก็ผ่านไปเร็วมากจนอ่านแทบจะไม่ทันเลย นี่จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกไม่อินไปกับหนังสักเท่าไหร่

สำหรับตัวมนุษย์ต่างดาวนั้น ตอนเห็นแว็บแรกทำให้นึกถึงตัวสัตว์ประหลาดในซีรีส์เรื่อง Stranger Things เลยแฮะ

สรุป >> ให้ไป 7 เต็ม 10 ละกันฮะ สนุกในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ เสียดายพล็อตที่เล่นกับความเงียบ เพราะมันมีอะไรให้เล่นได้มากกว่านี้

ท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ