[Review] #Alive (คนเป็นฝ่านรกซอมบี้) [2020]
#Alive (#살아있다, คนเป็นฝ่านรกซอมบี้) ภาพยนตร์แนวเอาตัวรอดจากซอมบี้คลั่งสัญชาติเกาหลีใต้ ที่สร้างจากบทเรื่อง Alone ของ Matt Naylor
เขียนบทโดย Cho Il-hyung และ Matt Naylor
กำกับโดย Cho Il-hyung
นำแสดงโดย
Yoo Ah-in (จากซีรีส์เรื่อง Fashion King และ Jang Ok Jung) รับบทเป็น Oh Joon-woo
Park Shin-hye (จากซีรีส์เรื่อง Goong S และภาพยนตร์เรื่อง The Call) รับบทเป็น Kim Yoo-bin
Lee Hyun-wook (จากซีรีส์เรื่อง Strangers from Hell) รับบทเป็น Lee Sang-chul
Jin So-yeon (จากซีรีส์เรื่อง Stranger 2 และ No, Thank You) รับบทเป็น Elena Kim
รับชมได้ทาง Netflix
เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวของ โอจุนวู แคสเตอร์เกมเมอร์ที่ต้องอยู่อพาร์ทเม้นท์คนเดียวในขณะที่พ่อและแม่เดินทางไปต่างจังหวัด และในวันนั้นเองก็ได้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นไปทั่วกรุงโซลเมื่อผู้คนเริ่มเกิดอาการคลุ้มคลั่งเข้าทำร้ายคนอื่นอย่างรุนแรง นอกจากนี้ผู้คลุ้มคลั่งยังมีพฤติกรรมที่จะกินเนื้อมนุษย์อีกด้วย และเหตุการณ์นี้ก็ได้เริ่มแผ่ขยายเป็นวงกว้างไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งรัฐบาลต้องประกาศเป็นภัยพิบัติร้ายแรงระดับชาติ
เมื่อผู้คนรอบๆ อพาร์ทเม้นท์และเพื่อนข้างห้องของ โอจุนวู เริ่มมีอาการติดเชื้อและเกิดอาการคลุ้มคลั่ง เขาจึงต้องขังตัวเองอยู่ภายในห้องที่อพาร์ทเม้นท์แห่งนี้เพื่อป้องกันการบุกโจมตีของเหล่าผู้ติดเชื้อ
หลายวันผ่านไป ในขณะที่ โอจุนอู เริ่มเกิดความท้อแท้และสิ้นหวังเนื่องจากเสบียงที่คุณแม่เตรียมไว้ให้และน้ำที่มีสำรองไว้เริ่มร่อยหรอ และยังไม่มีสัญญาณจากความช่วยเหลือใดๆ เข้ามาเลย เขาก็ได้พบกับ คิมยูบิน หญิงสาวที่ขังตัวเองอยู่ในอพาร์เม้นท์ตึกฝั่งตรงข้ามตึกที่เขาอยู่ นั่นจึงทำให้เขาเริ่มมีความหวังกลับมา
พวกเขาทั้ง 2 คนจึงต้องร่วมมือกันหาทางเอาชีวิตรอดออกจากเหตุการณ์วิกฤตในครั้งนี้ให้ได้
ความรู้สึกหลังดูจบ
โคตรสนุกเลยฮะ หนังเดินเรื่องและสร้างสถานการณ์ให้เราได้ลุ้นและคอยเอาใจช่วย 2 ตัวละครเอกนี้อยู่ตลอดเวลา แล้วซอมบี้ในเรื่องนี้ก็ไม่ได้เดินแบบง่อยเปลี้ยซะด้วย วิ่งโคตรเร็วเลย สับตีนแตกกันเลยทีเดียวแถมยังไต่เชือกปีนตึกเป็นอีกด้วย
หนังเดินเรื่องได้กระชับและฉลาดเล่ามากฮะ คือไม่มีเสียเวลามานั่งปูพื้นฐานตัวละครอะไรมากมาย แต่ใช้วิธีสร้างสถานการณ์ต่างๆ ขึ้นมาแล้วให้คนดูรู้จักกับตัวละครทั้ง 2 ผ่านสถานการณ์ต่างๆ นั้นเอง ซึ่งมันก็ได้ผลฮะเพราะคนดูก็จะได้ทั้งความสนุกลุ้นระทึกไปพร้อมๆ กับการรู้จักตัวละครไปในตัวเลย
และเมื่อเรารู้จักตัวละครมาพอสมควร มันก็ไม่ยากเลยที่เราจะตกหลุมรักและคอยลุ้นคอยอาใจช่วยตัวละครทั้ง 2 ตัวนี้ให้ผ่านพ้นวิกฤตต่างๆ ไปให้ได้
และจุดหนึ่งที่จะแตกต่างจากหนังซอมบี้เรื่องอื่นๆ เลยก็คือ หนังไม่ได้ใส่ฉากดราม่าที่เอาไว้คคอยเรียกน้ำตาจากคนดูเหมือนที่หนังเกาหลีหลายๆ เรื่องชอบทำ ดังนั้น ธีมหนังเรื่องนี้จึงชัดเจนเลยฮะว่าจะเน้นไปที่การต่อสู้เอาตัวรอดจากสถานการณ์เลวร้าย นั่นจึงมีหลายๆ ฉากที่เปิดโอกาสให้ “น้องผัก – พัคชินฮยี” ได้แสดงฉากแอ็คชั่นอย่างเต็มที่ ซึ่ง “น้องผัก” เองก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลยฮะ ท่าทางนางทะมัดทะแมงดีมากฮะ ดูไม่ขัดตาเลย
จุดที่ชอบอีกจุดหนึ่งของเรื่องนี้คือการแอบใส่มุกเสียดสีสังคมโลกโซเชียลในยุคปัจจุบันนี้ ที่แม้กระทั่งอยู่ในช่วงสถนการณ์คับขันขนาดไหน แต่ถ้าหากว่าเน็ตยังไม่ล่ม แบตมือถือยังไม่หมด มันก็จะมีพวกครีเอเตอร์ทั้งหลายที่จะพยายามสร้างคอนเท้นต์เรียกยอดวิวยอดไลค์อยู่เสมอ โดยเฉพาะยอดวิวจากการไลฟ์สด แม้ตัวเองจะอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตรายแค่ไหนก็ตาม
สรุป >> ให้ไป 7 เต็ม 10 นะฮะ นี่อาจจะไม่ใช่หนังเอาตัวรอดจากวิกฤตซอมบี้ที่ดีนัก แต่มันก็ตอบโจทย์ในแง่ของการให้ความบันเทิงได้ดีพอสมควรเลยฮะ
ท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ