[รีวิว] Alice in Borderland การเอาตัวรอดจากเกมที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน [Series]

[Review] Alice in Borderland (อลิสในแดนมรณะ) [2020]

Alice in Borderland (อลิสในแดนมรณะ今際の国のアリス) ภาพยนตร์ซีรีส์ญี่ปุ่นส่งท้ายปี 2020 แนว Survival Mystery Thriller Action Fantasy ที่ดัดแปลงมาจากมังงะชื่อเดียวกันของอาจารย์ Haro Aso โดยลิขสิทธิ์ฉบับภาษาไทยเป็นของสำนักพิมพ์ วิบูลย์กิจ

เขียนบทโดย Yoshiki Watabe, Yasuko Kuramitsu และ Shinsuke Sato
กำกับโดย Shinsuke Sato (เคยฝากผลงานสุดมันส์มาแล้วจาก GANTZ: The Movies ทั้ง 2 ภาค, I Am a Hero: The Movie และ Inuyashiki: The Movie)

นำแสดงโดย 
Kento Yamazaki [จาก JoJo’s Bizarre Adventure: Diamond Is Unbreakable Chapter I] รับบทเป็น Ryōhei Arisu
Tao Tsuchiya [จาก Rurouni Kenshin: Kyoto Inferno, Rurouni Kenshin: The Legend Ends และ Rurouni Kenshin: The Final] รับบทเป็น Yuzuha Usagi
Yûki Morinaga รับบทเป็น Chōta Segawa
Keita Machida รับบทเป็น Daikichi Karube
Nijirô Murakami [จาก Rurouni Kenshin: The Beginning] รับบทเป็น Shuntarō Chishiya
Sho Aoyagi รับบทเป็น Morizono Aguni
Ayaka Miyoshi รับบทเป็น Rizuna Ann
Dori Sakurada รับบทเป็น Suguru Niragi
Aya Asahina รับบทเป็น Hikari Kuina
Shuntarô Yanagi รับบทเป็น Takatora Samura
Nobuaki Kaneko รับบทเป็น Boshiya Hatter
Riisa Naka รับบทเป็น Kano Mira
Yamashita Tomohisa (YAMAPI) รับบทเป็น Ginji Kyuma (Season 2)
Isomura Hayato [จาก Kamen Rider Ghost] รับบทเป็น Sunato Banda (Season 2)
Tsunematsu Yuri [จาก the Naked Director 2] รับบทเป็น Akane Heiya (Season 2)
Chihiro Yamamoto [จาก Kamen Rider Heisei Generations: Dr. Pac-Man vs. Ex-Aid & Ghost with Legend Rider, Shuriken Sentai Ninninger และ Ultraman Geed] รับบทเป็น Lisa

รับชมได้ทางช่อง NETFLIX มีจำนวน 8 ตอน

เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวของ อะริสุ เด็กหนุ่มบ้านรวยแต่ไร้อนาคต ที่วันๆ เอาแต่เล่นเกมไม่ทำงานทำการอะไร กับเพื่อนอีก 2 คนได้แก่ คารุเบะ พนักงานบาร์ที่แอบไปหลงรักเจ้านายแล้วถูกจับได้จนโดนซ้อมก่อนจะไล่ออกจากงาน และ โจตะ พนักงานออฟฟิศที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินให้กับคุณแม่ที่หลงงมงายเอาเงินไปให้กับลัทธิประหลาด

วันหนึ่งในขณะที่พวกเขากำลังแอบซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำชายที่สถานีรถไฟชิบุยะ เพื่อหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากที่ได้ไปก่อความวุ่นวายอยู่กลางถนน จู่ๆ ไฟก็ได้ดับลงโดยไม่ทราบสาเหตุ พวกเขาทั้งสามจึงย่องออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

เมื่อพวกเขาออกมาสู่ภายนอกสถานีรถไฟ สิ่งที่พวกเขาได้พบก็คือ ความเวิ้งว้างว่างเปล่า จากเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายกลายเป็นเมืองร้างไร้ผู้คนในชั่วพริบตา

แต่เหตุการณ์ดังกล่าว ก็ไม่ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับทั้งสามคนเลย เพราะนี่คือชีวิตอิสระเสรีที่พวกเขาทั้งสามคนกำลังต้องการ 

และในขณะที่ทั้งสามคนกำลังเพลิดเพลินกับชีวิตที่อิสระท่ามกลางความว่างเปล่าของเมืองอยู่นั้น ก็ได้ปรากฏข้อความปริศนาที่ชักชวนให้พวกเขาเข้าร่วมเล่นเกมอะไรสักอย่าง เมื่อพวกเขาเดินตามไปยังป้ายบอกทางดังกล่าว พวกเขาก็ได้พบว่า พวกเขาได้หลงเข้าสู่เกมอันตรายที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน และจะถอนตัวกลางคันก็ไม่ได้ซะแล้ว 

และที่อันตรายไปกว่านั้นก็คือไม่ได้มีเฉพาะพวกเขาสามคนเท่านั้นที่ติดอยู่ในโลกอันว่างเปล่านี้ แต่ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ติดอยู่ในโลกนี้เช่นกัน และต่างคนต่างก็พยายามที่จะเอาชนะในเกมเหล่านั้นเพื่อที่จะเป็นผู้รอดชีวิตและคว้าโอกาสกลับสู่โลกเดิม

พวกเขาจะมีชีวิตรอดกลับสู่โลกเดิมได้หรือไม่ และใครที่เป็นคนอยู่เบื้องหลังโลกแห่งการต่อสู้แห่งนี้ ไปร่วมหาคำตอบกันนะฮะ

ความรู้สึกหลังดูจบ
ขอพูดในฐานะของคนที่ไม่เคยอ่านมังงะต้นฉบับมาก่อนนะฮะ (และไม่เคยดูฉบับอนิเมะมาก่อนด้วย) ก็ถือว่าทำออกมาได้สนุกใช้ได้เลยฮะ แม้ว่าพลอตเรื่องจะไม่ได้แปลกใจอะไรมากนัก เพราะถ้าใครที่ชอบและติดตามมังงะของญี่ปุ่นมาบ้างแม้จะไม่ใช่สายฮาร์ดคอร์ ก็คงจะคุ้นเคยกับพลอตเรื่องแนวนี้อยู่พอสมควร

สำหรับฉากแอ็คชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตอนแก้ไขปริศนาของเกมหรือฉากการต่อสู้ ทำออกได้สนุกเลยฮะ แม้ว่าจะมีบางฉากที่มันดูแปลกๆ และไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้างก็ตาม

การดำเนินเรื่องส่วนตัวมองว่ายังทำได้ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ซึ่งด้วยความที่ซีรีส์มีความยาวเพียงแค่ 8 ตอน แต่การเล่าเรื่องนั้นกลับไม่สามารถทำให้ออกมาได้เข้มข้นอย่างที่ควรจะเป็น เพราะมีบางช่วงบางตอนที่เหมือนจะยืดๆ เนือยๆ ไปสักหน่อย แต่ในบางช่วงบางตอนที่ต้องการการอธิบายและควรลงรายละเอียดให้ลึกอีกหน่อย กลับเล่าแบบผ่านๆ ซึ่งก็ทำให้คนที่ยังไม่เคยอ่านมังงะมาก่อนอาจจะตามไม่ทันได้เหมือนกัน

และที่เห็นได้ชัดๆ ถึงความไม่ลงตัวของซีรีส์ก็คือช่วงครึ่งซีซั่นแรกกับครึ่งซีซั่นหลังให้อารมณ์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนเหมือนใช้ผู้กำกับคนละคน ที่เล่าเรื่องไปกันคนละทิศละทางเลย ซึ่งหากมองว่าเป็นการเปลี่ยนอารมณ์เพื่อดึงเข้าสู่จุดไคลแม็กซ์ของซีซั่นแรกนี้ ก็ถือว่าพลาดล่ะฮะ เพราะเอาตรงๆ คือ ช่วงครึ่งต้นของซีซั่นแรกดูสนุกกว่า แม้ว่าช่วงครึ่งหลังของซีซั่นแรกจะกระหน่ำอัดฉากแอ็คชั่นกระจายเลยก็ตาม

Alice in Borderland (อลิสในแดนมรณะ) [2020]

สรุป >> โดยภาพรวมก็ยังคงให้คะแนนที่สูงถึง 8 เต็ม 10 นะฮะ เพราะแม้จะมีช่วงที่ดูยืดๆ เนือยๆ แต่ช่วงที่เล่นเกมเพื่อเคลียร์ด่านต่างๆ นั้น ทำออกมาได้ค่อนข้างดี ดูได้สนุก ตื่นเต้น น่าเร้าใจ และน่าติดตามมากๆ ที่สำคัญคือสาวๆ ตัวเด่นแต่ละคน แจ่มๆ ทั้งนั้น และใครที่เป็นสายชอบหนังเดือดๆ น่าจะชอบเพราะฉากแอ็คชั่นหลายๆ ฉากมีการใช้ความรุนแรงและเลือดสาดเยอะพอสมควร

ท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ

Facebook Comments