[Review] ร่างทรง / RANG ZONG (The Medium) [2021]
ร่างทรง / RANG ZONG (The Medium, 랑종) ภาพยนตร์แนว Mockumentary Supernatural Horror ที่เป็นการร่วมทุนของ GDH จากประเทศไทย กับ Showbox จากประเทศเกาหลีใต้
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Bucheon Best Choice) ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติแห่งพูช็อน ครั้งที่ 25 อีกด้วย
กำกับโดย บรรจง ปิสัญธนะกูล (ที่เคยฝากผลงานการกำกับจากภาพยนตร์เรื่อง ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ, แฝด และ พี่มาก..พระโขนง)
อำนวยการสร้างโดย Na Hong-jin และ บรรจง ปิสัญธนะกูล
วางโครงเรื่องโดย โดย Na Hong-jin และ Choi Cha-won
เขียนบทภาพยนตร์โดย บรรจง ปิสัญธนะกูล, ฉันทวิชช์ ธนะเสวี และ ศิววุฒิ เสวตานนท์
นำแสดงโดย
– นริลญา กุลมงคลเพชร รับบทเป็น มิ้ง
– สวนีย์ อุทุมมา รับบทเป็น นิ่ม (น้าของมิ้ง)
– ศิราณี ญาณกิตติกานต์ รับบทเป็น น้อย (แม่ของมิ้ง)
– ยะสะกะ ไชยสร รับบทเป็น มานิต (ลุงของมิ้ง)
– อรุณี วัฒฐานะ รับบทเป็น แป้ง (ภรรยาของมานิต)
รับชมได้ทาง Netflix
เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวของทีมงานถ่ายทำสารคดีรายการหนึ่งที่เดินทางไปทั่วประเทศเพื่อศึกษาชีวิตของผู้ที่เป็นร่างทรง จนกระทั่งพวกเขาได้มารู้จักกับ ป้านิ่ม ผู้ที่เป็นร่างทรงของ ย่าบาหยัน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของคนในหมู่บ้านแห่งหนึ่งทางภาคอีสาน ที่ผู้คนต่างก็นับถือสืบต่อกันมาเนิ่นนาน
วันหนึ่ง ป้านิ่ม และทีมงานถ่ายทำได้เดินทางไปร่วมงานศพของ วิโรจน์ ยะสันเทียะ สามีของ ป้าน้อย ซึ่งเป็นพี่สาวของ ป้านิ่ม และในงานศพนี้เองที่พวกเขาได้พบเห็นพฤติกรรมแปลกๆ หลายๆ อย่างของ มิ้ง ลูกสาวของ ป้าน้อย ทางทีมงานจึงได้ตัดสินใจที่จะติดตามถ่าย มิ้ง และครอบครัวด้วย โดยหวังว่าอาจจะสามารถบันทึกอะไรที่เกี่ยวกับการสืบทอดร่างทรงได้
และตั้งแต่นั้นเมื่อเวลาผ่านไปสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่ง…
ความรู้สึกหลังดูจบ
โดยรวมหนังมีส่วนผสมของหนังผีต่างประเทศอยู่หลายเรื่องมากเช่น The Blair Witch Project, The Exorcist, The Conjuring, REC และ Paranormal Activity อะไรประมาณนี้
ซึ่งภาพบรรยากาศโดยรวมตลอดทั้งเรื่อง ก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีมากๆ เลยฮะ มันเป็นบรรยากาศแบบชุนชนคนต่างจังหวัดที่ให้ความรู้สึกสงบแบบแปลกๆ ที่แฝงไปด้วยความไม่ชอบมาพากลอย่างบอกไม่ถูก
สิ่งหนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่าผิดจากที่คิดไปพอสมควรเลยก็คือ เรื่องราวที่หนังนำเสนอกับชื่อเรื่อง “ร่างทรง” มันดูไม่ค่อยจะไม่ตรงกันเท่าไหร่นะ ซึ่งในครั้งแรกที่ได้รู้จักกับหนังเรื่องนี้จากช่วงแรกที่มีการโปรโมทกันหนักๆ เราก็ได้รับการสื่อสารมาโดยตลอดว่าเป็นหนังแนวสารคดี/ฟุตเทจ ที่เกี่ยวกับการทรงเจ้าเข้าผีอะไรประมาณนั้น เราก็คิด (ไปเอง) ว่าจะได้ดูหนังที่จะพาเราไปสัมผัสกับเบื้องลึกเบื้องหลังแบบอินไซด์วงการคนทรงเจ้าอะไรทำนองนั้น แล้วยิ่งได้ยินมาว่าผู้กำกับได้ศึกษาเกี่ยวกับพิธีกรรมการเข้าทรงจากทั่วทุกภาคประเทศเพื่อเอามาผสมผสานตีความในแบบที่เขาต้องการนำเสนอ
แต่สุดท้าย สิ่งที่ได้ออกมากลับได้เพียงแค่ผิวๆ ของพิธีกรรมการเข้าทรงเท่านั้น เพราะหนังเลือกที่พาไปในแนวทางของการถูกผีสิงซะงั้น ซึ่งถ้าเราไม่ได้มีความคาดหวังในจุดนี้ เราน่าจะสนุกกับหนังเรื่องนี้ได้มากกวานี้นะฮะ
และด้วยความที่หนังเรื่องนี้พยายามทำตัวเป็นหนังแนว Mockumentary ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจะต้องมีความเรียล ความสมจริงในทุกๆ ฉาก แต่สิ่งที่กลายเป็นจุดด่างพร้อยที่สุดของเรื่อง กลับเป็นตัวละครที่เป็นทีมงานตากล้องทั้งหลายนี่แหละฮะ ที่มีการกระทำหลายๆ อย่างในหลายๆ สถานการณ์ ที่ดูแล้วขัดกับสิ่งที่คนในโลกของความเป็นจริงเค้าจะทำกัน โดยเฉพาะในช่วงฉากท้ายๆ ของเรื่องที่ตัวเองจะโดนเล่นงานตายอยู่แล้ว ยังจะมาห่วงกล้อง ห่วงถ่ายภาพอยู่นั่นแหละ มันใช่เวลามั้ยล่ะนั่น และนั่นเองที่มันทำให้หนังที่วางตัวว่าเป็นแนวสารคดี ดูปลอมขึ้นมาทันที
สิ่งดีงามอีกอย่างหนึ่งของเรื่องก็คือฝีมือการแสดงของ คุณสวนีย์ และ คุณนริลญา ที่ตีบท ป้านิ่ม กับ อีมิ้ง ได้กระจุยเลยฮะ เล่นได้ดีมาก แต่ส่วนหนึ่งก็รู้สึกเห็นใจ คุณนริลญา นะฮะ ที่คนหลายๆ คนกลับไปให้ความสนใจกับฉากฉีกเสื้อล้วงจิ๋มอันลือลั่นนั้นแทนซะได้
สรุป >> ให้ 7 เต็ม 10 ละกันฮะ หนังไม่ได้แย่นะ มีวิธีการดำเนินเรื่องที่ชวนให้ติดตามเลยล่ะ และความสนุกก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ในช่วงไคลแมกซ์ของเรื่องที่หนังเลือกที่จะเดินไปในทางนั้น ก็เลยทำให้เสียงของคนดูค่อนข้างที่จะแตกพอสมควร คือสำหรับคนที่รับได้ก็จะชอบเลย แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบ ก็จะรู้สึก “อิหยังวะ” ซึ่งโดยส่วนตัวถึงแม้จะดูแล้วรู้สึกสนุก แต่อารมณ์ส่วนหนึ่งก็จะค่อนไปทาง “อิหยังวะ” เหมือนกันฮะ คือรู้สึกเสียดายพลอตเรื่องและบรรยากาศของเรื่องที่ปูมาตั้งแต่ต้น
สุดท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ