[Review] The Silent Sea (ทะเลสงัด) [2021]
The Silent Sea (ทะเลสงัด, 고요의 바다) ซีรีส์สัญชาติเกาหลีใต้แนว Sci-Fi Mystery Thriller ของ Netflix Series Original ซึ่งดัดแปลงมาจากภาพยนตร์สั้นเรื่อง The Sea of Tranquility ของ Choi Hang-yong
เขียนบทโดย Park Eun-kyo และ Choi Hang-yong
กำกับโดย Choi Hang-yong
นำแสดงโดย
– Bae Doona [จากภาพยนตร์เรื่อง Air Doll (หัวใจลม ไม่แล้งรัก) และ ซีรีส์ชุด Kingdom (ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด)] รับบทเป็น Song Ji-an
– Gong Yoo [จาก ภาพยนตร์เรื่องTrain to Busan (ด่วนนรก ซอมบี้คลั่ง), ซีรีส์ชุด Coffee Prince (รักวุ่นวายของเจ้าชายกาแฟ) และ ซีรีส์ชุด Squid Game (สควิดเกม เล่นลุ้นตาย)] รับบทเป็น Han Yoon-jae
– Lee Joon รับบทเป็น Ryoo Tae-seok
– Kim Sun-young รับบทเป็น Hong Ga-young
– Kim Si-A รับบทเป็น Luna 073
– Lee Moo-saeng รับบทเป็น Gong Soo-hyuk
– Lee Sung-wook รับบทเป็น Kim Sun
– Choi Yong-woo รับบทเป็น Lee Gi-su
– Jung Soon-won รับบทเป็น Gong Soo-chan
– Cha Rae-hyoung รับบทเป็น E1
– Yoo Hee-je รับบทเป็น E2
– Yu Seong-ju รับบทเป็น Mr. Hwang
– Yoon Hae-ri รับบทเป็น Eun Ji-young
– Heo Sung-tae รับบทเป็น Kim Jae-sun
รับชมได้ทาง Netflix มีจำนวนทั้งหมด 8 ตอน



เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวของกลุ่มนักบินอวกาศและนักวิทยาศาสตร์ซึ่งนำทีมโดย ฮันยุนแจ และ ด็อกเตอร์ซงจีอัน ที่ได้รับการติดต่อให้ขึ้นไปปฏิบัติภารกิจเก็บกลุ่มตัวอย่างทดลองที่ถูกทิ้งเอาไว้ในสถานีทดลองบนสถานีวิจัยอวกาศ “บัลแฮ” ที่ตั้งอยู่บนดวงจันทร์ ซึ่งสถานีวิจัยแห่งนี้ได้ถูกปิดตัวลงไปและถูกปล่อยทิ้งร้างไว้เป็นเวลา 5 ปีแล้วหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุในระหว่างการปฏิบัติการอย่างไม่คาดฝันขึ้น
เมื่อพวกเขาไปถึงสถานีวิจัย “บัลแฮ” พวกเขาก็ได้พบกับศพของเจ้าหน้าที่ในสถานีวิจัยเป็นจำนวนมากอยู่ภายในสถานีวิจัยแห่งนี้
เจ้าหน้าที่เหล่านี้ตายด้วยสาเหตุใดกันแน่ ความลับอันดำมืดที่มาพร้อมกับความน่าสะพรึงกำลังรอคอยพวกเขาอยู่




ความรู้สึกหลังดูจบ
แมวอาจจะคาดหวังกับซีรีส์ชุดนี้มากเกินไปหน่อย จึงทำให้รู้สึกผิดหวังอยู่พอสมควรตั้งแต่เริ่มเปิด EP แรกเลย ประเด็นหลักเลยที่ทำให้รู้สึกไม่โอเค ก็คือคาแรคเตอร์ของตัวละครหลายๆ ตัว ที่ให้ความรู้สึกถึงความไม่สมเหตุสมผลเลยฮะ แต่ละคนดูเพี้ยนๆ และพร้อมจะก่อปัญหาได้ตลอดเวลา ซึ่งจริงๆ แล้วคนแบบนี้ไม่สมควรเลยที่จะได้มาอยู่ในภารกิจสำคัญอย่างนี้ ไหนจะความสัมพันธ์ของนักบินแต่ละคนก็ไม่ได้ดูว่าจะมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเลย
ซึ่งเพียงแค่ 2 ปัจจัยนี้ก็พอจะที่ทำให้คิดได้แล้วว่าภารกิจนี้ไม่น่าจะรอดแน่ๆ
อีกจุดหนึ่งที่รู้สึกไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ก็คือช่วงท้ายของเรื่องที่พยายามกระชากซีนอารมณ์ให้เข้มข้นด้วยมุกเดิมๆ แบบที่เรามักจะเห็นในหนังและซีรีส์เกาหลีหลายๆ เรื่องอย่างที่ผ่านๆ มา ซึ่งพอเราจับทางตรงนี้ได้แล้ว ซีนดังกล่าวมันก็เลยไม่อิมแพคอ่ะฮะ แถมปูมหลังของตัวละครหลักที่พยายามแทรกดราม่าเข้ามา ก็ไม่ได้ช่วยให้ซีนอารมณ์ต่างๆ ดูดีขึ้นมาเลย และในจุดนี้นี่เองที่ทำให้รู้สึกว่า กงยู ก็ กงยู เถอะ ไม่รอดเหมือนกันฮะ กลายเป็นเหมือนตัวละครที่ไร้อารมณ์ขึ้นมาทันทีเลย (จะเรียกว่าเล่นแข็งก็ไม่ผิดนัก)
แต่ที่ไม่ชอบที่สุดเลยก็คือฉากจบของเรื่องที่แบบต้องร้องว่า “อิหยังวะ” กันเลยทีเดียว คือจบได้แบบทำให้เรารู้สึกเคว้งมาก หรือเค้าจะวางไว้เพื่อไปต่อในซีซั่น 2 อันนี้ก็ไม่แน่ใจนะฮะ แต่ถ้าตั้งใจจบแบบนี้จริงๆ คือไม่โออ่ะ ไม่ซื้อฮะ
หนังมีความพยายามที่จะเป็นซีรีส์ไซไฟที่เสียดสีจิกกัดรัฐบาลและสังคมอยู่ในที (คล้ายๆ กับซีรีส์ Kingdom (ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด) ที่เล่าเรื่องการเมืองโดยมีฉากหลังเป็นหนังแนวเอาตัวรอดจากซอมบี้) รวมถึงประเด็นความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่ปูมาได้อย่างน่าสนใจมาก แต่ด้วยวิธีการเล่าเรื่องที่ขาดความคมคายนี่เอง จึงทำให้ประเด็นดังกล่าวมันไม่ทำงาน และจู่ๆ ก็ข้ามมันไปเฉยเลย
แต่สิ่งที่ดีงามอย่างหนึ่งของซีรีส์ชุดนี้ก็คือ การควบคุมบรรยากาศโดยรวมของเรื่องให้ออกมาเป็นแนวไซไฟทริลเลอร์ได้ดี ให้ความรู้สึกคล้ายกับภาพยนตร์เรื่อง Alien ของ Ridley Scott ยังไงยังงั้นเลย คือเริ่มต้นด้วยปริศนาต่างๆ ที่ค่อยปรากฎขึ้นมา พร้อมกับดำเนินเรื่องไปด้วยบรรยากาศตึงเครียดที่ให้อารมณ์ความรู้สึกแบบไม่ชอบมาพากลเหมือนจะมีอะไรโผล่ออกมาได้ตลอดเวลา ซึ่งในจุดนี้นี่เองที่พอจะช่วยให้ซีรีส์ชุดนี้ดูจะพอมีอะไรขึ้นมาได้บ้าง
สรุป >>ให้ไป 6.5 เต็ม 10 ละกันฮะ กับพลอดเรื่องที่ดูมีความน่าสนใจมากๆ แต่น่าเสียดายที่มีรูโหว่เยอะมาก แม้แต่ กงยู และ แบดูนา ก็เกือบเอาไม่อยู่
สุดท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ