[REVIEW] MIB: International (2019)
MIB: International ภาพยนตร์ Spin-Off ของแฟรนไชส์ Men In Black ที่เคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์กันมาแล้ว 3 ภาค โดยในภาคนี้ได้ Chris Hemsworth และ Tessa Thompson มารับบทนำ ร่วมด้วย Emma Thompson (รับบทเป็น Agent O หัวหน้าหน่วย MIB ของอเมริกา) และ Liam Neeson (รับบทเป็น High T หัวหน้าหน่วย MIB ของสหราชอาณาจักร)
เขียนบทโดย Art Marcum และ Matt Holloway
กำกับโดย F. Gary Gray
เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวของ Molly Wright (รับบทโดย Tessa Thompson) ที่ในช่วงวัยเด็กเธอเคยได้รับประสบการณ์ที่เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวและองค์กร Men In Black ตั้งแต่นั้นมาเธอจึงฝึกฝนตัวเองจนมีความสามารถที่จะเข้าทำงานในหน่วยงานต่างๆ ทั้ง FBI และ CIA ได้ แต่เธอก็ปฏิเสธการร่วมงานกับหน่วยงานดังกล่าวทั้งหมด เพราะว่าองค์กรเดียวที่เธอใฝ่ฝันอยากจะร่วมงานด้วยคือ องค์กร Men In Black เท่านั้น
จนกระทั่งวันหนึ่ง อุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณ UFO ที่เธอได้สร้างขึ้นมาเองนั้น สามารถจับสัญญาณอะไรบางอย่างที่เข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลกได้ เมื่อเธอได้ตามสัญญาณนั้นไป เธอก็ได้พบกับที่ตั้งขององค์กร Men In Black เธอจึงหาทางลอบเข้าไปข้างใน แต่สุดท้ายเธอก็โดนจับได้
เมื่อ Agent O ได้มาสอบสวนเธอ จึงได้พบกับความมุ่งมั่นที่อยู่ในตัวเธอที่อยากจะทำงานกับองค์ Men In Black จึงมอบโอกาสให้เธอได้ทำงานในฐานะพนักงานทดลองในชื่อรหัส Agent M
และภารกิจแรกที่เธอได้รับมอบหมายคือ สืบหาความผิดปรกติของหน่วย Men In Black สาขาลอนดอน ที่นั่นเองที่เธอได้ทำงานร่วมกับ Agent H (รับบทโดย Chris Hemsworth) ฮีโร่ผู้เคยกอบกู้โลกมาแล้วครั้งหนึ่งจากเอเลี่ยนเผ่าพันธุ์โฉดที่ชื่อว่า The Hive
การทำงานในฐานะ Men In Black ของ มอลลี่ ที่มีหน้าที่ในการปกป้องโลกจากการโจมตีของเอเลี่ยนและสืบหาความผิดปรกติของหน่วย Men In Black สาขาลอนดอนจึงได้เริ่มต้นขึ้น
ความคิดเห็นหลังดูจบ
นี่คือหนังในแฟรนไชส์ Men In Black ที่ทำออกมาได้อย่างน่าผิดหวังพอสมควร แม้ว่างาน CG จะอยู่ในระดับมาตราฐานของหนังตระกูลนี้ รวมถึงเคมีของนักแสดงทั้ง Chris Hemsworth และ Tessa Thompson ที่ดูจะเข้ากันดีมา (ทั้งคู่เคยร่วมงานกันมาแล้วตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่อง Thor: Ragnarok) แต่ก็ไม่สามารถที่จะโอบอุ้มหนังเรื่องนี้ให้มีความน่าสนใจขึ้นมาได้เลย
และแม้ว่าเสน่ห์ในแบบ MIB จะยังคงมีอยู่ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นมุกตลกจิกกัด มุกคู่หู มุกเอเลี่ยน หรืออะไรต่างๆ เหล่านั้น แต่มันกลับไม่ได้ช่วยให้หนังดูสนุกได้อย่างที่ควรจะเป็น
สรุป >> หนังดูได้แบบเพลินๆ และพอจะมีความบันเทิงอยู่บ้าง แต่สำหรับคนที่ชื่นชอบและติดตามแฟรนไชส์นี้กันมาตั้งแต่ภาคแรก อาจจะไม่ค่อยถูกใจกับภาคนี้สักเท่าไหร่ ว่ากันง่ายๆ เลยว่า ภาคนี้น่าจะเหมาะกับแฟนหนังรุ่นใหม่ที่ไม่เคยดู MIB มาเลยมากกว่า
และหากว่าใครที่มองดู เทสซ่า ในเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่าเหมือน Michael Jackson ก็ไม่ต้องแปลกใจนะฮะ เพราะใน MIB ภาคก่อนหน้านี้ คนที่รับบท Agent M ก็คือ MJ คนนั้นนั่นเอง
ท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ