[รีวิว] บอสฉันขยันเชือด กับวัตถุดิบชั้นดีที่ปรุงออกมาได้ไม่กลมกล่อม [Movie]

[Review] บอสฉันขยันเชือด (My Boss is a Killer) [2021]

บอสฉันขยันเชือด (My Boss is a Killer) ภาพยนตร์เรื่องแรกจากค่าย TAI Major ของคุณ วิสูตร และ วิชา พูลวรลักษณ์ ซึ่งแต่เดิมได้วางกำหนดการฉายเป็นวันที่ 28 มกราคม 2564 แต่ต้องถูกพิษโควิด-19 ที่ระบาดรอบใหม่สังเวยไป จนต้องเลื่อนโปรแกรมฉายมาเป็น 1 เมษายน 2564 แทน

ผลงานกำกับของ ศรณ์พัฒน์ ปราการะนันท์ และ ภูวนิตย์ ผลดี (สองผู้กำกับจาก โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง ที่ออกฉายไปเมื่อปีพ.ศ. 2560)
ดูแลการผลิตโดย วิสูตร พูลวรลักษณ์
รับชมได้แล้วทาง Netflix

นำแสดงโดย
ก้อง สหรัถ สังคปรีชา รับบทเป็น คุณต้น บอสใหญ่ของบริษัทนกกระทาคู่
ไอซ์ปรีชญา พงษ์ธนานิกร รับบทเป็น โบกี้ พีอาร์ดาวรุ่ง
มุกดา นรินทร์รักษ์ รับบทเป็น เมษา มาร์เกตติ้งขี้สงสัย
เผือกพงศธง จงวิลาส รับบทเป็น ปั่น มาร์เกตติ้งรุ่นพี่
โอ๊ตปราโมทย์ ปาทาน รับบทเป็น ดร. อัง เจ้าพ่อทฤษฎีสมคบคิด แต่ติสต์แตก
ผักกาดพอวิไล อภิรัชฎาพร รับบทเป็น หลิน มาร์เกตติ้งสายซับ (เหงื่อ)
นอทสัณหณัฐ ทิราชีพ รับบทเป็น โจ๊ก กราฟฟิกดีไซน์เนอร์สายมึน

เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
หนังเล่าเรื่องราวของเหล่าพนักงานบริษัทนกกระทาคู่ เมื่อ เมษา, โบกี้ และ หลิน สามสาวแห่งทีมมาร์เกตติ้งของบริษัท ได้แอบไปล่วงรู้เรื่องราวความลับอันดำมืดของ คุณต้น บอสใหญ่ของพวกเขาว่าน่าจะเป็นฆาตกรโรคจิตฆ่าต่อเนื่องที่ออกตามล่าฆ่าพนักงานสาวออฟฟิศ

เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว พวกเธอจะอยู่เฉยได้อย่างไร ปฏิบัติการขุดคุ้ยอดีตและสืบหาความจริงที่แสนระทึกจึงได้เริ่มต้นขึ้น โดยมี ดร. อัง เป็นผู้ให้ความช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง

ความรู้สึกหลังดูจบ
หนังเล่าเรื่องได้ไม่ค่อยสนุกเลยฮะ เดินเรื่องวนเวียนไม่ไปข้างหน้าซะที และด้วยความยาวหนังประมาณ 2 ชั่วโมงจึงกลายเป็น 2 ชั่วโมงที่อืดอาดยืดยาดมาก แถมปูมหลังของตัวละครที่พยายามสอดแทรกเข้ามาก็ไม่ได้ช่วยให้หนังมันเมคเซนต์อะไรเท่าไหร่นัก

ก็ไม่รู้ว่าเป็นที่ตัวผู้กำกับเองหรือได้โจทย์มาจากทางค่ายนะฮะ ถึงได้ตีความและเล่าหนังออกมาในทิศทางแบบนี้ คือหนังไม่มีความชัดเจนในแนวทางใดแนวทางหนึ่งเลย เราจึงได้เห็นว่าหนังมีทั้งความ “พยายาม” ที่จะเป็นหนังตลก (จุดนี้จะเห็นได้ตั้งแต่โปสเตอร์แล้วที่ทำให้คนดูรับรู้ว่านี่เป็นหนังตลกนะ) แต่มันก็ไม่ตลกเลย มุกแป๊กมาก ก็มีบางซีนที่พอให้ขำ หึหึ ได้บ้างแต่จากที่สังเกต คนดูทั้งโรงก็ไม่ได้ หึหึ กันทุกคนนะ

หนังมีทั้งความ “พยายาม” จะเป็นหนังตลกร้ายจิกกัดสังคมแต่ก็ทำออกมาได้ไม่ถึง ทั้งๆ ที่เรื่องราวในแวดวงพนักงานออฟฟิศ มีอะไรให้เอามาเล่นได้อีกเยอะ แต่หนังก็ไม่เอามาเล่น (แค่แตะๆ พอให้เห็นว่ากำลังเล่าเรื่องของพนักงานบริษัทอยู่นะ)

และสุดท้ายหนังยังมีความ “พยายาม” ที่จะเป็นหนังทริลเลอร์ระทึกขวัญหักมุม ซึ่งในพาร์ทนี้แมวโอเคนะ โดยเฉพาะในช่วงไคลแมกซ์ของเรื่องเนี้ย ทำออกมาได้ดีใช้ได้เลย เพียงแต่ว่ามันถูกความอืดอาดยืดยาดน่าเบื่อที่ทำให้มีความรู้สึกว่าเมื่อไหร่หนังจะจบครอบงำมาเกือบทั้งเรื่องแล้ว พอมาถึงจุดไคลแมกซ์อารมณ์มันเลยไม่พีคอย่างที่ควรจะเป็น

สิ่งที่ต้องขอชมเชยมากที่สุดสำหรับเรื่องนี้เลยก็คือการแสดงของคุณ ดีเจเผือก ฮะ เรื่องนี้ได้แสดงให้เห็นพัฒนาการและศักยภาพทางด้านการแสดงของเขาอย่างชัดเจนเลยฮะ สามารถทำให้เรา “เชื่อ” ในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อกับเราได้

บอสฉันขยันเชือด (My Boss is a Killer)

สรุป >> ให้แค่ 6 เต็ม 10 นะฮะ น่าเสียดายวัตถุดิบชั้นดีที่หนังมี ไม่ว่าจะเป็นพลอตเรื่องที่น่าสนใจหรือนักแสดงที่แค่เห็นหน้าก็เรียกคนดูได้แล้ว แต่กลับปรุงออกมาได้ไม่กลมกล่อมอย่างที่ควรจะเป็น

สุดท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ