[รีวิว] A Quiet Place Part II (ดินแดนไร้เสียง 2) ตื่นเต้นและลุ้นระทึกกว่าภาคแรก [Movie]

[Review] A Quiet Place Part II (ดินแดนไร้เสียง 2) [2021]

A Quiet Place Part II (ดินแดนไร้เสียง 2) ภาพยนตร์แนว Post-Apocalyptic Horror ที่เป็นภาคต่อของ A Quiet Place ที่ออกฉายไปเมื่อปี 2018 โดยยังคงได้ผู้กำกับคนเดิมอย่าง John Krasinski ที่พ่วงตำแหน่งเขียนบทไว้ด้วยเช่นเคย

นำแสดงโดย
Emily Blunt (จากภาพยนตร์เรื่อง The Devil Wears Prada, Sicario และ Edge of Tomorrow) รับบทเป็น Evelyn Abbott
Millicent Simmonds (จากภาพยนตร์เรื่อง Wonderstruck) รับบทเป็น Regan Abbott
Noah Jupe (จากภาพยนตร์เรื่อง The Titan และ Ford v Ferrari) รับบทเป็น Marcus Abbott
Cillian Murphy (จากภาพยนตร์เรื่อง 28 Days Later, Batman Begins และ Inception) รับบทเป็น Emmett
Djimon Hounsou (จากภาพยนตร์เรื่อง The Legend of Tarzan, Captain Marvel และ Shazam!) รับบทเป็น the Man on the Island
Scoot McNairy (จากภาพยนตร์เรื่อง Batman v Superman: Dawn of Justice และ Once Upon a Time in Hollywood) รับบทเป็น Marina Man

รับชมได้ทาง Netflix

เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เป็นเวลากว่า 474 วันแล้วที่เหล่าฝูงเอเลี่ยนที่มีประสาทสัมผัสไวต่อเสียงดีเยี่ยมได้บุกเข้ามายึดโลกและฆ่ามนุษย์จนเกือบจะสูญสิ้น

หลังจากจบเหตุการณ์ในภาคแรก ครอบครัว Abbott ซึ่งประกอบไปด้วย Evelyn Abbott (รับบทโดย Emily Blunt), Regan Abbott (รับบทโดย Millicent Simmonds), Marcus Abbott (รับบทโดย Noah Jupe) และลูกชายวัยทารกอีก 1 คน ต้องเดินทางอพยพไปเรื่อยๆ เพื่อให้อยู่ห่างไกลจากเจ้าเอเลี่ยนกระหายเลือด

จนกระทั่งพวกเขาได้พบกับ Emmett (รับบทโดย Cillian Murphy) เพื่อนของ Lee Abbott (รับบทโดย John Krasinski) ที่หลบซ่อนตัวอยู่อย่างสันโดษมาเป็นเวลานานตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น

วันหนึ่งพวกเขาได้ยินเสียงเพลงจากสถานีวิทยุดังขึ้นมา จึงทำให้ เรแกน เชื่อว่ายังมีผู้รอดชีวิตอื่นอยู่ข้างนอก เธอจึงตัดสินใจแอบหนีออกไปตามหาสถานที่ที่ส่งสัญญาณนั้นเพียงคนเดียว

จะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาต่อไป ต้องไปลุ้นกันเองนะฮะ

ความรู้สึกหลังจากดูจบ (!!!ระวัง!!! มีสปอยเล็กน้อย)
สนุกมากฮะ ฉากลุ้นระทึกที่ต้องต่อสู้เอาตัวรอดนี่โดนใจมากกว่าภาคแรกอีกนะฮะ หลายๆ อย่างมันดูลงตัวกว่า และที่ชอบที่สุดเลยก็คือมีการเผยให้เห็นเหตุการณ์ Day 1 เหตุการณ์วันแรกที่ฝูงเอลี่ยนบุกเข้าโจมตีเมือง ทำออกมาได้สนุกและลุ้นระทึกมากฮะ

แต่ในความสนุกนั้น ก็แอบที่จะเดาทางของหนังได้อยู่เหมือนกันเพราะหนังเล่นเดินตามขนบของหนังแนวต่อสู้เอาชีวิตรอดจากสัตว์ประหลาดแทบจะทุกอย่างเลยฮะ

มีหลายๆ ซีนแอบให้อารมณ์เหมือนซีรีส์ชุด The Walking Dead และหนังเรื่อง 28 Days Later อยู่เหมือนกันนะฮะ ทั้งการต่อสู้เอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้ (ที่ในเรื่องนี้เปลี่ยนเป็นฝูงเอลี่ยน) และมนุษย์ด้วยกันเอง

ก็คิดว่าน่าจะมีภาค 3 เป็นตัวปิดเรื่องแน่นอนเพราะหนังทิ้งท้ายไว้ในแนวทางแบบนั้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าภาคนี้จะสามารถสร้างรายได้ได้มากพอที่ทางสตูดิโอจะยอมให้เข็นภาค 3 ออกมาอีกหรือไม่

สรุป >> ให้ 7.5 เต็ม 10 นะฮะ ส่วนตัวคือชอบในส่วนของฉากแอ็คชั่นมากกว่าภาคแรก แต่หนังเดาทางง่ายไปหน่อย

ท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ