[Review] Taxi Driver (แท็กซี่จ้างแค้น) [2021]
Taxi Driver (모범택시, แท็กซี่จ้างแค้น) ซีรีส์แนว Drama Crime Action Thriller สัญชาติเกาหลีใต้ที่ดัดแปลงมาจาก Webtoon เรื่อง The Deluxe Taxi (Red Cage) ของ Carlos และ Lee Jae-jin
เขียนบทโดย Oh Sang-ho (EP. 1–10) และ Lee Ji-hyun (EP.11–16)
กำกับโดย Park Joon-woo
นำแสดงโดย
Lee Je-Hoon (จากซีรีส์เรื่อง Signal) รับบทเป็น Kim Do-ki
Esom (จากซีรีส์เรื่อง Save Me 2) รับบทเป็น Kang Ha-na
Kim Eui-sung (จากภาพยนตร์เรื่อง Train to Busan และ Extreme Job) รับบทเป็น Jang Sung-chul
Pyo Ye-jin (จากซีรีส์เรื่อง VIP) รับบทเป็น รับบทเป็น Ahn Go-eun
Jang Hyuk-jin (จากภาพยนตร์เรื่อง Train to Busan และซีรีส์เรื่อง Vagabond) รับบทเป็น Choi Kyung-koo
Bae Yoo-ram (จากภาพยนตร์เรื่อง Exit และซีรีส์เรื่อง Zombie Detective) รับบทเป็น Park Jin-eon
Yoo Seung-mok (จากซีรีส์เรื่อง Kingdom) รับบทเป็น Jo Jin-woo
Lee Yoo-joon (จากซีรีส์เรื่อง Signal) รับบทเป็น Wang Min-ho
Cha Ji-yeon (จากภาพยนตร์เรื่อง The Treacherous) รับบทเป็น Baek Sung-mi
Lee Ho-cheol (จากซีรีส์เรื่อง 365: Repeat The Year) รับบทเป็น Goo Suk-tae
รับชมได้ทาง Netflix มีจำนวน 16 ตอน หรือถ้าดูผ่าน viu ก็จะมีจำนวน 32 ตอน
เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวของกลุ่มคนที่เคยตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมและยังคงได้รับผลกระทบทางจิตใจมาตลอดตั้งแต่นั้น อันประกอบไปด้วย จางซองชอล (ประธาน), คิมโดกี (คนขับรถ), อันโกอึน (ฝ่าย IT), ชเวคยองกู (ช่างเครื่องยนต์) และ พัคจินออน (ช่างเทคนิค) โดยกลุ่มคนเหล่านี้ได้จัดตั้งบริษัทที่ชื่อว่า Rainbow Taxi ขึ้นมาเพื่อเปิดให้บริการ Taxi VIP ซึ่งบริการแท็กซี่นี้จะไม่ได้รับ-ส่งผู้โดยสารทั่วไป แต่จะรับเฉพาะผู้โดยสารที่ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมทุกรูปแบบ แต่ไม่เคยได้รับความเป็นธรรมจากทางกฎหมายหรือสังคมเลย
โดย Taxi VIP จะรับฟังปัญหาของเหยื่อได้รับผลกระทบมา และหากเหยื่อต้องการที่จะแก้แค้นเหล่าคนที่ร่วมกระทำอาชญากรรมเหล่านั้นต่อเหยื่อ ทาง Taxi VIP จะดำเนินการทำหน้าที่นี้แทนให้อย่างสาสม
ความรู้สึกหลังดูจบ
ยอมรับเลยว่าเกือบเทไปแล้วหลังจากดูผ่านไป 2 ตอน เพราะรู้สึกขัดใจกับเซ็ตติ้งของกลุ่มแท็กซี่วีไอพีที่ดูแปลกๆ ไปหมด ทั้งฐานปฏิบัติการลับที่ดูเหมือนพยายามทำให้เป็นแบบ Bat Cave ของ Batman อ่ะ หรือแม้กระทั่งตอนติดต่อกับเหยื่อที่เป็นผู้ว่าจ้างก็แปลกอีก มันดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไหร่ อะไรประมาณนี้อ่ะ แล้วพอเริ่มรู้สึกแบบนี้มันก็เลยทำให้ดูแล้วไม่อิน พอไม่อินมันก็เลยรู้สึกว่าไม่สนุก
ก็เลยหยุดพักไปดูเรื่องอื่นอยู่พักหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจกลับมาดูต่อโดยพยายามตัดอคติทั้งหลายออกไปให้หมด และนั่นแหละฮะถึงได้รู้ว่าเกือบพลาดซีรีส์ดีๆ ไปซะแล้ว
เป็นซีรีส์ที่แอ็คชั่นโคตรเดือดเลยฮะ แถมดราม่าก็เข้มข้นสุดๆ สะท้อนสังคมได้แสบทรวงจริงๆ และที่ชอบที่สุดเลยก็คือการถ่ายทอดมุมมองที่แตกต่างกันออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจนระหว่างฝั่งของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อกับฝั่งของผู้ที่ถือกฎหมาย โดยเฉพาะการสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบต่างๆ ที่ผู้ตกเป็นเหยื่อและครอบครัวได้รับ และยิ่งสะเทือนอารมณ์หนักขึ้นไปอีกเมื่อรู้ๆ กันอยู่ว่าใครเป็นคนทำผิด แต่กฎหมายกลับเอาผิดอะไรคนเหล่านั้นไม่ได้ เพียงเพราะขาดหลักฐานในการเอาผิด
และประเด็นต่างๆ ที่ซีรีส์เรื่องนี้นำเสนอ ก็เป็นประเด็นที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาและเราก็สามารถพบเห็นกันได้ในโลกแห่งความเป็นจริง เช่นปัญหาการค้ามนุษย์, ปัญหาการใช้ความรุนแรงในโรงเรียน, ปัญหาการหลอกล่อ/บังคับถ่ายคลิปอนาจารเพื่อปล่อยในเว็บเถื่อน หรือแม้กระทั่งปัญหาแกงค์ Call Center เป็นต้น
หลายๆ คดีดูแล้วก็รู้สึกถึงความหดหู่พอสมควรเลยฮะ ดังนั้นจะว่าไปแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้อาจจะไม่เหมาะกับคนที่มีอาการซึมเศร้าหรือเคยตกเป็นเหยื่อจากเหตุการณ์ร้ายๆ มานะฮะ
สิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับเซ็ตติ้งแปลกๆ ที่ว่าไปในตอนต้นก็คือ ความเก่งเวอร์วังของกลุ่ม Rainbow Taxi ที่มีคนเพียง 5 คน แต่สามารถล้มองค์ใหญ่ๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ และโดยเฉพาะกับความอึดของตัวละคร คิมโดกี ที่ไม่ว่าจะโดนซ้อมปางตายยังไงก็เอาเขาไม่ลงจริงๆ
สรุป >> ให้ไป 9 เต็ม 10 นะฮะ เป็นซีรีส์ที่ถ่ายทอดความเป็นจริงในสังคมที่อยุติธรรมได้เป็นอย่างดี