[รีวิว] Rurouni Kenshin: The Beginning ปฐมบทแห่งมือพิฆาตบัตโตไซ [Movie]

[Review] Rurouni Kenshin: The Beginning (รูโรนิ เคนชิน – ซามูไรพเนจร: ปฐมบท) [2021]

Rurouni Kenshin: The Beginning (รูโรนิ เคนชิน – ซามูไรพเนจร: ปฐมบท, るろうに剣心 最終章 The Beginning) ภาพยนตร์ Live Action สุดมันส์ที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนยอดฮิตของยุค 90 ชื่อเรื่องเดียวกันของอาจารย์ Nobuhiro Watsuki ที่จะเล่าเรื่องราวจุดเริ่มต้นของมือพิฆาตบัตโตไซกับโศกนาฏกรรมแห่งความรักของเขา

เขียนบทและกำกับโดย Keishi Ōtomo ที่เคยฝากฝีมือมาแล้วจาก Rurouni Kenshin (Trilogy) ที่ออกฉายไปเมื่อ 2012-2014

นำแสดงโดย
Takeru Satoh (จากภาพยนตร์เรื่อง Beck, Bakuman, If Cats Disappeared from the World, Ajin: Demi-Human และ Inuyashiki) บทเป็น Himura Kenshin
Kasumi Arimura (จากภาพยนตร์เรื่อง I Am a Hero) รับบทเป็น Yukishiro Tomoe
Issey Takahashi (จากภาพยนตร์เรื่อง Kill Bill: Volume 1 และ Shin Godzilla) รับบทเป็น Katsura Kogorō
Yōsuke Eguchi (จากภาพยนตร์เรื่อง Bleach) รับบทเป็น Saitō Hajime
Nijirō Murakami (จากซีรีส์เรื่อง Alice in Borderland) รับบทเป็น Okita Sōji
Kazuki Kitamura (จากภาพยนตร์เรื่อง Parasyte ทั้ง 2 ภาค) รับบทเป็น Tatsumi
Masanobu Ando (จากภาพยนตร์เรื่อง Sadako VS Kayako) รับบทเป็น Takasugi Shinsaku
Masataka Kubota (จากภาพยนตร์เรื่อง Tokyo Ghoul และ Tokyo Ghoul ‘S’) รับบทเป็น Akira Kiyosato

รับชมได้ทาง Netflix

เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวเล่าย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของ ฮิมูระ เคนชิน ชายหนุ่มผู้ที่มีอุดมการณ์ที่แรงกล้าในการที่จะต่อสู้และโค่นล้มรัฐบาลของโชกุนโทคุกาวะเพื่อยุคใหม่ที่ผู้คนจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข

เขาจึงได้เดินทางมาสมัครเข้าร่วมเป็นหน่วยจู่โจมที่นำโดย ทาคาสึกิ ชินซากุ ซึ่งได้รวบรวมกลุ่มคนเพื่อต่อต้านรัฐบาลโชกุนอยู่ แต่หลังจากที่ คัตสึระ โคโกโร่ ผู้นำกลุ่มกบฏโจชูกลุ่มต่อต้านรัฐบาลโชกุนได้เห็นฝีมือและจิตวิญญาณของ ฮิมูระ เคนชิน เขาก็ได้เอ่ยปากขอตัว ฮิมูระ เคนชิน ไปอยู่ด้วย

ตั้งแต่นั้นมา ฮิมูระ เคนชิน จึงได้กลายเป็นนักฆ่าผู้เลือดเย็น ที่ไม่เคยหลั่งเลือดและหยาดน้ำตาในยามที่สังหารศัตรู จนได้รับสมญานามว่า มือพิฆาตบัตโตไซ

แต่แม้ ฮิมูระ เคนชิน จะฆ่าคนมามากมายแค่ไหน จิตใจของเขาก็ยังคงบริสุทธิ์และเต็มเปี่ยมไปด้วยอุดมการณ์เช่นเดิมไม่เคยเปลี่ยน จนบางครั้งภายในจิตใจลึกๆ ของ ฮิมูระ เคนชิน ก็เริ่มเกิดความสับสนถึงความถูกต้องในการฆ่าคน

จนกระทั่งวันหนึ่งที่ ฮิมูระ เคนชิน ได้พบกับ ยูกิชิโระ โทโทเอะ หญิงสาวสวยนัยน์ตาโศกที่ดูเหมือนจะเก็บซ่อนความเศร้าเอาไว้อยู่ในใจ ชีวิตและจิตวิญญาณของ ฮิมูระ เคนชิน ก็เริ่มค่อยๆ เปลี่ยนไป

ความรู้สึกหลังดูจบ
เป็นการจบเรื่องราวของฉบับ Live Action ได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยฮะ เพราะเป็นการคลี่คลายปมทุกอย่างที่ได้วางทิ้งไว้ในภาคแรก (Rurouni Kenshin: Origins) ที่ออกฉายเมื่อปี 2012 และ ภาค 4 (Rurouni Kenshin: The Final) ที่เพิ่งออกฉายไปก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิถุนายน 2021

ภาคนี้เป็นภาคที่มีฉากแอ็คชั่นน้อยที่สุดในบรรดาหนังทั้ง 5 ภาค แต่ถึงแม้จะน้อยแต่ก็เดือดทุกฉากเช่นเคย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเก่งกาจของ ฮิมูระ เคนชิน ได้อย่างชัดเจน ยกเว้นฉากไคลแมกซ์ที่จบง่ายไปหน่อย ไม่สมกับที่เป็นศึกสุดท้ายของภาค

งานภาพและบทหนัง มีส่วนคล้ายๆ หนังอาร์ตเลย ภาพสวยมาก และบทพูดก็เยอะมากเช่นกัน ซึ่งด้วยบทพูดที่เยอะนี่เองที่น่าจะทำให้คนที่ไม่ใช่แฟนหนังหรือแฟนการ์ตูนเรื่องนี้ เบื่อได้ง่ายๆ เลยล่ะ และเชื่อว่าน่าจะมีบางคนที่แอบหลับไปด้วยเหมือนกัน

สุดท้ายนี้ เหตุการณ์ในหนัง แม้ดูเผินๆ อาจจะคล้ายกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในบ้านเรา อย่างการต่อสู้เรียกร้องของกลุ่มประชาชนกับฝ่ายรัฐบาล แต่ถ้ามองลึกๆ แล้ว ส่วนที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือ กลุ่มกบฏที่ลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาลโชกุนนั้น ต่อสู้เพื่อปฏิรูปประเทศแล้วยึดแนวคิดต่อต้านชาวตะวันตกและคืนอำนาจให้องค์จักรพรรดิ ดังนั้น อย่าโยงหนังเรื่องนี้เข้ากับการเมืองบ้านเรานะฮะ มันคนละบริบทกัน ดูหนังกันให้สนุกนะฮะ

Rurouni Kenshin: The Beginning (รูโรนิ เคนชิน - ซามูไรพเนจร: ปฐมบท) [2021]

สรุป >> ให้ไป 8 เต็ม 10 นะฮะ แม้หนังจะลดทอนฉากแอ็คชั่นลงไปมาก แต่ก็แลกมาด้วยแนวคิดอุดมการณ์ที่เข้มข้นผ่านบทสนทนาของตัวละครทุกตัว และแม้จะบอกว่าเป็นภาคต้น (The Beginning) ก็ตาม แต่กลับเป็นภาคที่สามารถเติมเต็มให้หนังทุกภาคหลอมรวมเป็นภาพเดียวกันได้อย่างชัดเจน สมกับที่หลายๆ คนให้การยอมรับว่า นี่คือ 1 ในหนังที่ดัดแปลงมาจากมังงะได้ดีที่สุดเรื่องหนึ่งเลย

ท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ