[รีวิว] ธี่หยด หนังสยองขวัญที่มีต้นทางที่ดี แต่ทำออกมาได้น่าผิดหวัง [Movie]

[Review] ธี่หยด (Death Whisperer) [2024]

ธี่หยด (Death Whisperer) ภาพยนตร์ไทยแนว Horror Supernatural ที่ว่ากันว่าดัดแปลงมาจากเรื่องจริงที่ คุณกิตติศักดิ์ กิตติวิรยานนท์ นำมาเขียนเป็นกระทู้อยู่ในเว็บไซท์ Pantip.com เมื่อปีพ.ศ.2558 และกลายเป็นกระทู้ผีที่โด่งดังมาก จนเมื่อปีพ.ศ.2566 ทางสำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ ได้ติดต่อให้นำมาเขียนเป็นนวนิยายโดย คุณกิตติศักดิ์ กิตติวิรยานนท์ ใช้นามปากกาว่า กฤตานนท์ และใช้ชื่อหนังสือว่า ธี่หยด…แว่วเสียงครวญคลั่ง

และในปีเดียวกันนี้ทาง คุณกิตติศักดิ์ กิตติวิรยานนท์ ได้นำไปเล่าผ่านทางรายการ The Ghost Radio รายการเล่าเรื่องผีออนไลน์ที่ดำเนินรายการโดย คุณแจ๊ค ก็ยิ่งทำให้เรื่องเล่านี้กลับมาโด่งดังขึ้นไปอีกจนกระทั่งถูกหยิบมาสร้างเป็นหนังโดยการร่วมทุนของ BEC World และ M Studio

เขียนบทภาพยนตร์โดย สรรัตน์ จิรบวรวิสุทธิ์ และ ธรรมณันน์ จุฬาบริรักษ์
กำกับโดย คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา (จากภาพยนตร์เรื่อง ขุนกระบี่ผีระบาด, อสุจ๊าก และ ทองสุก 13)

นำแสดงโดย
ณเดชน์ คูกิมิยะ รับบทเป็น ยักษ์
เดนิส เจลีลชา คัปปุน รับบทเป็น หยาด
รัตนวดี วงศ์ทอง รับบทเป็น แย้ม
กาจบัณฑิต ใจดี รับบทเป็น ยศ
พีระกฤตย์ พชรบุณยเกียรติ รับบทเป็น ยอด
ณัฐชา นีน่า เจสซิกา พาโดวัน รับบทเป็น ยี่
อริศรา วงษ์ชาลี รับบทเป็น บุญเย็น (แม่)
ปรเมศร์ น้อยอ่ำ รับบทเป็น เฮียฮั่ง (พ่อ)
องอาจ เจียมเจริญพรกุล รับบทเป็น จ่าปพันธ์
พอเจตน์ แก่นเพชร รับบทเป็น ลุงพุฒ
มานิตา ชอบชื่น รับบทเป็น ผีชุดดำ
จำปา แสนพรม รับบทเป็น ยายช่วย

รับชมได้ทาง Netflix

เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่อยู่ในหมู่บ้านแถบชนบทของจ.กาญจนบุรีซึ่งประกอบไปด้วย พ่อ (เฮียฮั่ง), แม่ (บุญเย็น), ลูกชาย 3 คน (ยักษ์, ยศ, ยอด) และ ลูกสาว 3 คน (หยาด, แย้ม และ ยี่) ครอบครัวธรรมดาที่ใช้ชีวิตอย่างปรกติสุขมาโดยตลอด

จนกระทั่งวันหนึ่งที่พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับการคุกคามจากปีศาจร้ายที่มุ่งหมายจะหาร่างใหม่ที่สมบูรณ์กว่าร่างเดิมเพื่อสิงสถิต พวกเขาจึงต้องร่วมมือกันปกป้องคนที่รักจากภยันตรายในครั้งนี้

ความรู้สึกหลังดูจบ
โดยส่วนตัวไม่เคยฟังเรื่องเล่านี้และไม่เคยอ่านฉบับนวนิยายมาก่อน จึงพูดได้เต็มปากว่าไม่มีข้อมูลต้นฉบับอะไรในหัวมาให้เปรียบเทียบเลย ดังนั้นนี่คือความรู้สึกที่ได้จากจากการดูหนังล้วนๆ ซึ่งหลังจากดูจบก็รู้สึกว่าหนังไม่ค่อยสนุกอย่างที่คาดหวังไว้ แม้องค์ประกอบโดยรวมทั้งหมดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและมีความน่าสนใจมาก ทั้งพลอตเรื่องที่ว่ากันว่ามาจากเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นจริง และ โลเคชั่นที่ดูมีความลึกลับชวนให้ไม่น่าไว้ใจอยู่หลายฉาก แต่ทีมสร้างกลับไม่สามารถดึงส่วนดีขององค์ประกอบดังกล่าวออกมาใช้งานได้

จุดที่ไม่ชอบอย่างแรกเลยก็คือ การที่ทีมสร้างเหมือนยังไม่รู้ทิศทางของตัวเองว่าจะวางคาแรคเตอร์ของ “ปีศาจร้าย” ให้เป็นตัวอะไรกันแน่ เพราะจากที่สื่อสารออกมาเหมือนเอาเอกลักษณ์เด่นๆ ของทั้ง ปอบ, ภูติผีจากคุณไสย/คำสาป และ ปีศาจร้ายโบราณ มาผสมปนเปสร้างเป็น “ปีศาจร้าย” ในเรื่องออกมาจนขาดเอกลักษณ์ของตัวเองไป (ซึ่งก็เข้าใจว่าต้นทางของเรื่องเล่าก็น่าจะยังไม่มีข้อสรุปว่าตกลงแล้วสิ่งที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่คืออะไรกันแน่ ซึ่งตรงนี้ควรเป็นหน้าที่ของทีมสร้างนะฮะที่จะสรุปออกมาให้เป็นแนวทางที่ชัดเจนก่อนลงมือเขียนบท)

จุดที่ 2 ที่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่คือ การแสดงของ “ณเดชน์” ที่ดูจะโอเวอร์แอ็คติ้งเกินเบอร์ไปหน่อย ดูมีความพยายาม “มากเกินไป” ที่จะแสดงความเป็นคนอารมณ์ร้อน ชอบใช้กำลังแก้ปัญหา จนทำให้ในหลายๆ ช่วงดูแล้วรู้สึกแปลกๆ และดูขัดตากับการกระทำ/การแสดงออกของตัวละคร “ยักษ์” รวมถึงนักแสดงท่านอื่นๆ ที่มีทั้ง “เล่นแข็ง” และพูดเหมือน “ท่องบท” ทั้งๆ ที่ไม่ใช่นักแสดงหน้าใหม่เลย ผลงานที่ผ่านๆ มาก็เคยอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่กับเรื่องนี้คือ “ไม่ผ่าน” อ่ะฮะ (หรือจริงๆ แล้วอาจจะเพราะนักแสดงท่านอื่นเล่นไม่ถึง จึงกลายเป็นว่าการแสดงของ “ณเดชน์” กระโดดเกินคนอื่นก็เป็นไปได้)

จุดที่ 3 ที่ไม่ค่อยชอบคือ “บท” และ “ไดอะล็อก ของตัวละครเกือบทุกตัวที่ดูแปลกๆ ดูขัดๆ ดูไม่เป็นธรรมชาติเอาซะเลย การกระทำของตัวละครแต่ละตัวดูไม่น่าจะใช่สิ่งที่คนปรกติจะกระทำกันหากต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้ายแบบนี้

จุดสุดท้ายที่ดูจะเป็นปัญหาที่สุดคือเรื่องของการ “ตัดต่อ” เพื่อ “เล่าเรื่อง” ที่ในหลายๆ ช่วงดูไม่ค่อยจะปะติปะต่อกันเท่าไหร่นัก ทำให้การเดินเรื่องดูไม่ค่อยลื่นไหลเท่าไหร่นัก (ซึ่งปัญหานี้น่าจะเกิดในช่วงการทำ Post Production สุดท้ายก่อนหนังเข้าฉายนะฮะ เพราะถ้าเทียบกับในตัวอย่างจะพบว่ามีหลายๆ ซีนในตัวอย่างหายไปจากฉบับฉายจริง แล้วซีนที่หายไปดันเป็นซีนที่สำคัญพอสมควรซะด้วย)

ธี่หยด (the Death Whisperer) [2024]

สรุป >> โดยรวมให้ 4 เต็ม 10 ละกันฮะ แม้จะมีข้อติค่อนข้างเยอะ แต่หนังก็ยังพอให้ความบันเทิงได้อยู่บ้าง ก็หวังว่าภาค 2 ที่กำลังจะฉาย ทางทีมสร้างจะวางทิศทางของหนังได้ชัดเจนกว่านี้นะฮะ คือเอาให้ชัดๆไปเลยว่าจะเน้นความหลอน/น่ากลัวของ “ปีศาจร้าย” หรือจะเน้นแอ็คชั่นบ้าดีเดือดของตัวละคร “ยักษ์” แล้วก็เดินไปตามทิศทางนั้นไปเลยน่าจะดีกว่านี้นะฮะ